บทที่ 5 4

ถึงวันนี้จะเป็นวันเกิดขององศา แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวันธรรมดาแสนน่าเบื่อที่ไม่มีเซลีนอยู่ข้างกายโลกของเขาก็หม่นหมองลง บรรยากาศในห้องผ่าตัดเลยตึงเครียดไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนทุกครั้ง เขาถึงกับไล่พยาบาลออกไปทบทวนตัวเองเพียงเพื่อพูดถึงภรรยาของแพทย์หัวใจและทรวงอกท่านหนึ่งซึ่งไม่ยอมหย่าทั้งที่รู้ว่าสามีมีเมียน้อยเป็นพยาบาลอยู่แผนกเดียวกัน

“เซอร์ไพรส์”

ทันทีที่เขาออกจากห้องผ่าตัดแล้วจะเดินไปห้องพัก พลุกระดาษหลายอันถูกยิงใส่ตัวเขา

ด้านแอ้มที่เป็นพนักงานร้านเค้กเต็มตัวก็ถือเค้กยืนอยู่ตรงโถงกว้าง โดยปกติเป็นที่พักรอของญาติคนไข้ในแผนก แต่เย็นมากแล้วส่วนใหญ่เลยกลับบ้าน จะเหลือก็แต่ที่อยู่เฝ้าคนไข้บางตา เจ้าหน้าที่ในแผนกที่พอจะมีเวลาว่างก็ปลีกตัวมาร่วมงานวันเกิดที่แอ้มตั้งใจจัดให้เขา

แต่องศาไม่เห็นเซลีนเลยแม้แต่เงา ไหนเธอบอกว่าแล้วเจอกัน... เจอที่ไหนล่ะ ในความฝันงั้นหรือ?

งานวันเกิดนี่จะเป็นสิ่งที่เธอออกหัวคิดให้แอ้มทำหรือเปล่านะ หรือเพราะผู้หญิงคนนี้ทำเพราะอยากเปิดตัวกันแน่ อยากมีตัวตนถึงขนาดนี้เลยหรือไง

“สุขสันต์วันเกิดนะคะองศา”

หล่อนถือเค้กเดินเข้ามาหน้าระรื่น ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมงานที่แอบสงสัยในความสัมพันธ์

“ทำอะไรอยู่รู้ตัวไหมแอ้ม”

เขาเค้นเสียงลอดไรฟันถามให้พอได้ยินกันแค่สองคน หล่อนทำเหมือนไม่สะทกสะท้านเพราะรู้ดีว่าองศาไม่กล้าเอาเรื่องหล่อนต่อหน้าคนอื่น คนเขาจะได้รู้กันหมดน่ะสิว่าอะไรเป็นอะไร

“ฉลองวันเกิดให้องศาไงคะ”

“ทำเกินไปแล้วนะ”

“อีกหน่อยพวกเขาก็จะพูดถึงแอ้มในฐานะเมียคนเดียวของคุณอยู่แล้ว คุณเองนั่นแหละรู้ตัวไหม เซลีนเขาไม่เอาคุณแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่บอกให้แอ้มทำถึงขนาดนี้หรอกค่ะ”

องศากำหมัดแน่น หล่อนทำมาเป็นรู้ดีกว่าเขาที่เมื่อคืนเพิ่งได้ฟังเมียบอกรักทางโทรศัพท์ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เพราะเซลีนน้อยใจเขาต่างหาก ถ้าวันนั้นเขาไม่ไปหาแอ้มถึงที่บ้านเธอก็คงไม่โกรธจนออกไปเมา แล้วก็คงไม่ประชดเขาด้วยการให้หล่อนเข้ามาอยู่ในบ้านส่วนตัวเองย้ายออกไปข้างนอกหรอก

องศาอยากลากแอ้มออกไปคุยกันให้รู้เรื่องว่าได้เงินทั้งจากเขาและจากลุงไปแล้วหล่อนยังต้องการอะไรอีก ถ้าต้องการตัวเขาล่ะก็ เขาชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่มีทาง แต่นั่นจะยิ่งน่าสงสัยไปกันใหญ่

ด้านลุงโอบที่ถูกเรียกมาช่วยผ่าตัดคนไข้ซึ่งมีอาการแทรกซ้อน และไม่พอใจแอ้มอยู่แล้วแต่ทำอะไรไม่ได้ ก็เข้ามาตบไหล่หลานชายพร้อมแก้สถานการณ์ไปว่า

“น่าปลื้มแทนแกนะ ที่อดีตลูกศิษย์ซาบซึ้งใจที่เคยให้ความรู้เลยอุตส่าห์จัดงานวันเกิดให้ เป่าสิ”

ท่านว่าหน้ายิ้ม องศาหงุดหงิดใจทั้งกับลุงที่เคยบอกเขาว่าให้แก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการหย่ากับเซลีนเสีย และกับแอ้มที่ตามตื๊อจนน่ารำคาญ เขาปั้นหน้ายิ้มไม่ได้จริง ๆ

“เป่าเลยค่ะ”

แอ้มยิ้มหน้าชื่นตาบาน องศาจำใจต้องเป่าเทียนอย่างเสียไม่ได้ หากตอนนั้นเองที่มีเสียงไมโครโฟนจากลำโพงในแผนกดังขึ้น ใครบางคนร้องเพลง Happy birthday ได้ไพเราะน่าฟังแต่คงจะอยู่นอกเหนือความคาดหมายของแอ้ม เพราะหล่อนดูตกใจพอสมควร

“เซล”

องศาผละจากแอ้มแล้วเรียกหาเจ้าของเสียง เขาจำสำเนียงแสนหวานของเมียรักได้เป็นอย่างดี แต่มองซ้ายมองขวาไม่เห็นว่าเธอจะหลบอยู่ตรงมุมไหนเลย

“เซลีน ที่รักอยู่ไหน”

ด้านแอ้มหงุดหงิดจนหน้านิ่วคิ้วขมวด เซลีนทำบ้าอะไรของเธอ ไหนฝากฝังกันตั้งแต่แรกแล้วว่าให้รับผิดชอบเซอร์ไพรส์วันเกิดองศาแทนเธอที่จะไม่เข้ามายุ่งแล้วยังไงล่ะ

‘พี่มีแผนจะเซอร์ไพรส์วันเกิดองศา แต่ตอนนี้มันหมดเวลาของพี่แล้ว น้องแอ้มจะช่วยทำให้มันสำเร็จได้ไหม ถือเป็นคำขอสุดท้ายจากพี่นะคะ’

‘ไม่ต้องห่วงหรอก มันเป็นหน้าที่ของแอ้มอยู่แล้ว’

‘พี่เชื่อมือน้องแอ้มได้ใช่ไหมคะ’

‘แน่นอนค่ะ อะไรที่ทำเพื่อองศา มันจะต้องออกมาดีอยู่แล้ว หมอเซลไม่ต้องกังวล แอ้มจะทำให้ดี ทำให้เด็ด จนหมอเซลเทียบไม่ติดเลย’

ในเมื่อเซลีนประกาศจะถอนตัวแบบนี้แล้ว วันเกิดองศาหล่อนจะถือโอกาสแสดงความเป็นเจ้าขององศาให้ทุกคนในแผนกรู้ ต่อให้ไม่ได้พูดว่าเป็นเมียเขาแต่ทุกคนก็จะดูออกแล้วไม่กล้าเข้ามายุ่มย่ามกับองศาอีก

‘เรียกพี่ว่าพี่เซลเถอะจ้ะ’

‘เราจะญาติดีกันถึงขั้นนั้นเลยเหรอคะ’

‘ถือว่าเราสนิทกันเพราะดูแลสามีคนเดียวกันก็ได้’

‘โอเคค่ะ พี่เซล แล้วไหนล่ะคะ คีย์การ์ดคอนโดองศา’

จากวันนั้นดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปตามที่หล่อนหวัง แต่ทำไมตอนนี้เซลีนถึงโผล่มา หญิงสาวต้องการอะไรกันแน่ ขณะที่คิดอยู่นั้นเสียงร้องเพลงของเซลีนก็หยุดลง ตามมาด้วยเสียงบันทึกเทปการสนทนาที่ทำเอาองศากับลุงโอบเข่าอ่อน

‘ลุงรู้เรื่องที่แอ้มทำคนไข้เสียชีวิตแล้วสินะครับ’

‘ไม่ใช่แค่ฉันที่รู้ แต่ญาติคนไข้ก็รู้แล้ว... ฉันแค่รอดูว่าแกจะปิดบังฉันไปอีกนานแค่ไหน’

‘รู้ได้ยังไงครับ เมียผมเหรอครับ’

‘คนเขาไม่ได้โง่นะไอ้อง! เขารู้กันทั้งห้องผ่าตัด แต่แค่ไม่บอกเมียแกว่าเขารู้ แล้วเขาก็รู้กันหมดเหมือนกันว่าแกปิดบังเพราะเข้าข้างแอ้ม’

‘ผมไม่ได้จะปิดบังนะลุง’

‘แค่มาบอกช้าเหรอ?! แค่ที่แกเล่นชู้กับเด็กในสังกัดตัวเองชีวิตฉันก็เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายและแทบจะไปกราบตีนเมียแกอยู่แล้วที่เขาไม่แฉ นี่แกยังมาปกป้องชู้รักแกหน้าด้าน ๆ ให้คนอื่นเขาสงสัยอีกเหรอไอ้อง!’

องศาอึ้งจนพูดไม่ออก เหมือนทั้งโลกกำลังหยุดหมุน ขณะที่ในหัวมีแต่คำถามว่าทำไม เซลีนทำไปเพื่ออะไรงั้นหรือ มันมากกว่าแค่งอนกันทั่วไป

“นี่มันอะไรกัน ปิดมันทีสิวะ”

เป็นลุงโอบที่โวยวายอย่างอับจน คลิปเสียงเมื่อกี้ทุกคนคงรู้แล้วว่าท่านรู้เห็นเป็นใจกับพฤติกรรมของแอ้มและองศามาโดยตลอด ซ้ำยังละเลยและปกปิดเพื่อตำแหน่งของตัวเอง นี่น่ะหรือเป้าหมายที่แท้จริงของหลานสะใภ้ท่าน

องศายืนนิ่งเหมือนเนื้อตัวมันชาไปหมด ในสมองพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นยังไม่อาจรู้เหตุผลที่แท้จริงของเมียรักได้เลย

ด้านเซลีนที่ควบคุมเครื่องขยายเสียงอยู่แม้มุมปากเธอจะกดยิ้มแต่หัวใจกำลังเจ็บร้าว สิ่งที่แตกต่างระหว่างเธอในตอนนี้กับองศาในตอนที่ตั้งใจพาแม่นั่นมาขย่มกันบนเตียงของเธอก็เห็นจะเป็นความรู้สึก เพราะเธอหาใช่คนเลือดเย็นที่จะได้ไม่รู้สึกรู้สาแม้จะกำลังทำร้ายคนที่ตัวเองรัก

แต่ทุกครั้งที่ค้นลึกลงไปในใจเธอกลับต้องทรมานเพราะไฟแค้นที่แผดเผา ต่อให้เธอรักเขามากแค่ไหนก็ไม่อาจให้อภัยในสิ่งที่เขาทำเพราะภาพจำในวันนั้นมันยังติดตา นิ้วเรียวกดเล่นไฟล์เสียงต่อไปในมือถือแม้น้ำตากำลังเอ่อคลอ

มันเป็นความเจ็บปวดที่ปนมากับความโล่งใจสินะ...

‘เลิกบ้าเสียทีแอ้ม’

‘ใช่สิ แอ้มมันบ้า ใครมันจะไปดีเท่าเมียองศาล่ะ ตอนนี้ได้นอนกับมันแล้วใช่ไหม ลืมแอ้มแล้วงั้นสิ’

‘นอนหรือไม่นอนแล้วมันทำไมแอ้ม ผมกับเซลีนเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย’

‘นอนกับมันแล้วจริง ๆ ด้วย’

‘ผมจะนอนกับเมียผมแล้วมันไปหนักหัวใคร คุณอย่ามาทำตัวเป็นเจ้าของผมนะ ผมไม่ชอบ คนเป็นเจ้าของจริง ๆ เขายังไม่งี่เง่าเท่าคุณเลยรู้ไว้ซะด้วย’

‘องศา!’

‘พรุ่งนี้ออกจากที่นี่ไปซะ จะไปฝึกงานที่ไหนก็ไป’

‘งั้นแอ้มจะบอกทุกคนว่าเราเป็นอะไรกัน’

‘เอาเลย อยากพังก็เชิญ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าทำแบบนั้นคุณจะไม่มีวันได้ลายเซ็นรับรองจากผม... ที่คุณทำพลาดวันนี้อย่างน้อยก็มีโอกาสต่อสู้ในศาล แต่ถ้าคุณจะบอกเรื่องของเรากับทุกคน คุณจะไม่มีโอกาสได้พูดอะไรเลยเพราะมันเป็นเรื่องที่พวกเขารับไม่ได้ คุณอยากเอาอนาคตมาทิ้งเพื่อรั้งผู้ชายคนเดียวไว้ก็เชิญ’

สิ้นเสียงนั้นพลันเกิดเสียงฮือฮาของทุกคน สายตาที่มององศา ลุงโอบ และแอ้มทั้งผิดหวังและรังเกียจ บางคนก็พูดว่าคิดไว้แล้วไม่มีผิด บางคนก็ว่าไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ขนาดนี้ แต่องศาหาได้สนใจ ตอนนั้นเขาเจ็บปวดกับสิ่งที่เซลีนทำจนความรู้สึกเฉียดใกล้คำว่าใจสลาย

เจ้าหล่อนทำกับคนที่ตัวเองบอกรักทุกวันได้ร้ายกาจเหลือเกิน หัวใจอ่อนแรงคล้ายถูกคมมีดกรีดเฉือนจนเป็นริ้ว เธอที่เคยเป็นดั่งแสงสว่างนำทางหัวใจกลับเป็นคนเดียวที่หยิบยื่นความมืดมิดให้ชีวิตเขา องศาเดาได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ไม่มีอะไรหยุดเธอได้แม้แต่ความรัก...

“เซลีน แกมันบ้าไปแล้วเหรอ”

แอ้มโวยวายลั่น มือที่ถือเค้กอยู่สั่นสะท้าน ขอเพียงเซลีนมายืนอยู่ตรงหน้าหล่อนสาบานเลยว่าเค้กก่อนนี้จะปาใส่หน้ามันเต็ม ๆ

“คลิปเสียงนั่นมันตัดต่อนะ ทุกคนอย่าไปเชื่อ”

ให้ตายเถอะ! ความย้อนแย้งของแอ้มทำให้เซลีนคิดว่าหล่อนควรพบจิตแพทย์ หล่อนต้องการเปิดตัวว่าเป็นเมียอีกคนขององศาอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง น่าจะดีใจที่มีหลักฐานสนับสนุนให้ดิ้นไม่หลุดสินะ

ถ้ามีภาพประกอบด้วยมันจะชัดเจนกว่านี้หรือเปล่านะ คิดแล้วเซลีนก็ปาดน้ำตาแล้วกดเล่นวีดีโอที่ต่อกับโทรทัศน์ทุกตัวในแผนก เป็นคลิปที่แอ้มกำลังคุยกับลุงโอบในห้องทำงานของท่าน

แอ้มอ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อว่ามันจะตกไปอยู่ในมือเซลีน เพราะหลังเกิดเรื่องแฮมเบอร์เกอร์ หล่อนกลัวจะต้องรับโทษทั้งทางวินัยและทางกฎหมาย เลยปรึกษาธารีที่หล่อนคิดว่าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในตอนนั้น

‘นี่ถามจริง ยังไม่รู้เบื้องหลังตำแหน่งของหมอองเหรอ’

‘เบื้องหลังอะไร’ หล่อนมีความสัมพันธ์กับเขามานานก็จริง แต่สิ่งที่เขาเล่าให้หล่อนฟังมีเพียงความเบื่อหน่ายต่อเซลีน เรื่องเซ็กซ์ และเรื่องงานซึ่งเกี่ยวกับหล่อนบ้างบางครั้ง

‘ท่านประธานเอาตำแหน่งตัวเองเป็นประกัน เพื่อให้หมอองได้เป็นหัวหน้าแผนก เพราะงั้นฉันว่า เรื่องนี้เธอไม่ได้ซวยคนเดียวหรอก’

แล้วก็เป็นอย่างที่ธารีคาดเดา ลุงโอบที่กลัวผลกระทบของเรื่องนี้ได้นัดหล่อนเข้าไปหา แอ้มให้ธารีแอบตามไปอัดคลิป จะใช้เป็นหลักฐานข่มขู่สองลุงหลานยอมทำตามที่หล่อนต้องการ สุดท้ายดันตกไปอยู่ในมือของเซลีน มันจะเป็นฝีมือของใครไปไม่ได้นอกจากคนที่หล่อนไว้ใจ

ธารี...

“เธอเป็นคนเอาคลิปพวกนี้ให้เซลีนเหรอ”

หล่อนหันไปถามธารีที่ยืนยิ้มไม่สลดด้วยเสียงสั่นเครือ ฝ่ายนั้นแสร้งทำหน้าตกใจพลางยกมือทาบอกแล้วก้าวออกมา

“เปล่านะ อืม... มันหลุดมาจากเธอหรือเปล่า ก็เธอเป็นคนง่าย ๆ จำไม่ได้เหรอว่าไปนอนแบ-- อุ้ย!”

ธารียกมือปิดปากอย่างดัดจริตพอ ๆ กับเสียงที่พูดออกไป สายตามองแอ้มหัวจรดเท้า

“...เธอเผลอส่งมันให้ใครหรือเปล่าน่ะ”

ทั้งท่าทาง คำพูดและน้ำเสียงแบบนี้ทำให้แอ้มเข้าใจได้ทั้งหมดว่าธารีที่เข้ามาตีสนิทจนหล่อนเชื่อใจที่แท้ก็คงเป็นพวกของเซลีน

“เธอทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงธารี”

“แล้วเธอล่ะ? เป็นเมียน้อยผัวเจ้ฉันไปได้ยังไง แถมแม่งไม่ละอายใจอีก ถ้าละอายใจสักนิดคงน่าสงสารอยู่หรอก เพราะงั้นเธอโดนแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

“เจ้เหรอ?” แอ้มเข้าใจชัดแจ้ง “แกเข้ามาตีสนิทฉันก็เพื่อนังเซลีนใช่มะ”

“ตามนั้น” ธารียักไหล่ แอ้มทนไม่ไหวทำท่าจะปาเค้กในมือแต่

ธารีชี้หน้าหล่อนอย่างหมายมาด “มาสิ!”

แอ้มกลับลำแทบไม่ทัน เพราะท่าทางธารีน่ากลัวไม่ต่างจากเซลีนในตอนนั้นเลยสักนิด แก๊งเดียวกันมันต้องศีลเสมอกันแบบนี้เลยสิท่า หล่อนจึงได้แต่ต่อว่าอย่างเหลืออด

“เลวมาก”

“มึงดีแล้วเหรอ?”

ธารียิ้มหยัน อยากรู้เหมือนกันว่าคนอย่างแอ้มเติบโตมาเช่นไรถึงได้เป็นคนที่ขัดแย้งในตัวเองเช่นนี้ หล่อนว่าคนอื่นเลว... แต่สิ่งที่หล่อนทำมันดีเสียที่ไหน

ตอนนั้นเองที่ทั้งห้องต้องฮือฮากับคลิปต่อไปที่ฉายบนจอ บางคนถึงกับยกมือถือขึ้นมาถ่ายเลยทีเดียว

ใช่แล้ว... คลิปที่เซลีนใช้ต่อรองให้องศาอยู่กับเธออีกสามเดือนอย่างไรล่ะ

องศาแทบล้มทั้งยืนแต่ร่างกายกลับไม่ไหวติง โสตประสาทอื้ออึงไปหมด ขณะที่ดวงตาจับจ้องหน้าจอซึ่งมีภาพเคลื่อนไหวของแอ้มกำลังร่อนสะโพกบนตัวเขา ทว่าความคิดองศากลับล่องลอยไปไกล

ใจเขาหวนนึกถึงวันที่เธอทำให้ผู้ชายอย่างเขาเปิดใจ มองเธอในมุมที่เปลี่ยนไปและสอนให้เขาได้รู้จักความรัก เป็นดั่งน้ำฝนฉ่ำเย็นที่โปรยลงมาบนผืนดินแห้งแล้ง

‘บี๋ยิ้มอะไร’

‘เค้ามีความสุข ขอบคุณที่รักมากจริง ๆ ที่ไม่ทิ้งเค้าไปไหน ทั้งที่เค้ามันเป็นผัวที่ไม่เอาไหนเลยแท้ ๆ แล้วถ้าไม่ใช่เพราะเค้ามันก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ คนที่จะได้มานอนแทนเค้าตรงนี้อาจจะเป็นที่รัก’

‘ก็เราเป็นสามีภรรยากัน จะทิ้งกันตอนที่อีกฝ่ายลำบากได้ยังไง’

‘ขอบคุณนะครับ’

สามเดือนที่ผ่านมาเขามองเห็นความใส่ใจและความห่วงใยที่เขาเคยมองข้าม เธอทำให้เขารักเธอหมดทั้งใจ ทำให้เขาเชื่อว่าเธอจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและไม่มีวันปล่อยมือกัน แต่สุดท้ายกลับแผดเผาหัวใจเขาด้วยไฟร้อน

นี่เป็นสิ่งที่เธอต้องการมาตลอดเลยงั้นหรือ?

ทั้งหมดนี้เพียงเพื่อให้เขาเจ็บเหมือนที่เธอเคยเจ็บ ให้เขาได้ลิ้มรสคำลวงที่ขื่นขมยิ่งกว่ายาพิษ และทำให้เขาอับอายที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอจนไม่เหลือชิ้นดีอย่างนั้นหรือ

น้ำตาอุ่นจัดร่วงหล่นจากขอบตา กลางอกเขามันแสบร้อนเสียยิ่งกว่าทานของแสลง เขาเพิ่งเคยรู้สึกเช่นนี้ มันเจ็บเหมือนกับว่าจะขาดใจเสียให้ได้

ที่ผ่านมาเขาเรียนรู้เพียงวิธีที่จะรักจากเธอ แต่ยังไม่เจอหนทางรับมือกับความผิดหวังที่ทำให้เขาทรมานเจียนตายอย่างนี้

ตอนนั้นเซลีนจะรู้สึกเจ็บเท่ากันหรือเปล่า

หรือเธอรู้สึกมากกว่าเขาแค่ไหนกัน

จะเหน็บหนาวเหมือนเขาตอนนี้หรือไม่ เพราะเขาทั้งหลอกลวงและหักหลัง ทำให้ความรัก ความเชื่อใจ และความหวังของเธอต้องพังทลายในชั่วพริบตา

แต่เขากลับไปแก้ไขความผิดพลาดไม่ได้ และต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ไม่อาจลบล้างมันออกไป อดีตเลวทรามของเขากับแอ้มเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือลืมเลือน แม้จะได้โอกาสแก้ตัว ทว่าสุดท้ายมันก็ย้อนกลับมาทิ่มแทงเขาอยู่ดี

มันเป็นแบบนี้เองสินะ ‘ความเจ็บปวด’

นาทีนั้นเอง ร่างบางระหงของเซลีนแหวกผู้คนเดินเข้ามา หญิงสาวอยู่ในเครื่องแบบพร้อมปฏิบัติงาน แสดงว่าอยู่ในแผนกมาทั้งวันแต่เขากลับไม่ได้เจอ

“เซอร์ไพรส์”

เธอปรบมือแปะ ๆ มองผลงานชิ้นโบแดงของตัวเองพร้อมรอยยิ้มสาแก่ใจ องศามองเมียรักด้วยแววตารื้นเศร้า พยายามค้นหาความรักในแววตาเธอแต่กลับพบเจอแต่ความว่างเปล่าที่ทำให้เขาเหน็บหนาวจับขั้วหัวใจ

“นังเซลีน”

ยังไม่ทันที่เซลีนจะได้พูดต่อ แอ้มก็พุ่งเข้ามาจะทำร้ายเพราะตอนนี้หล่อนกำลังเลือดขึ้นหน้า ต่อให้ต้องตายกันไปข้างก็ขอตบนังบ้าที่มันเอาคลิปหล่อนมาประจาน แต่เจอบาทาสลาตันของธารีสกัดไว้จนร่างกระเด็นก้นกระแทกพื้น ขณะที่องศาวิ่งเข้ามาโอบกอดเซลีนเพื่อบังก้อนเค้กที่แอ้มปามา ทำให้เขาเลอะครีมตั้งแต่ท้ายทอยไปจนถึงกลางหลัง

เซลีนชะงักงัน...

มันเป็นท่าทีที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นจากผู้ชายอย่างเขา ปกป้องผู้หญิงที่กำลังทำลายชีวิตตัวเองอยู่เนี่ยนะ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก

“ออกไป!!!”

หญิงสาวผลักสุดแรงจนองศาเกือบเสียหลักล้มเพราะสะดุดแอ้ม แอ้มที่นอนงอก่องอขิงกุมหน้าท้อง เพราะจุกจากลูกถีบของธารี ยัยนุ้งเคยพูดในคืนที่เธอจับได้ว่าองศาพาแอ้มมาทำอะไรบนเตียงเธอว่า

‘คอยดูเถอะ นุ้งจะไม่ให้มือเจ้ต้องแปดเปื้อนกับนังนั่นอีก อย่างอิแอ้มมันต้องเจอนุ้ง’

ช่วยไม่ได้เสียด้วยสิที่ธารีเป็นคนรักษาคำพูดยิ่งชีพแบบนี้...

“สุขสันต์วันเกิดนะ ฉันเตรียมของขวัญมาให้ด้วย หวังว่าจะชอบ”

เซลีนเดินเข้าไปจ้องหน้าสามี รอยยิ้มร้ายกาจเหยียดหยามเขาเต็มขั้น ก่อนหันไปรับกล่องของขวัญแบบฝาเปิดมาจากธารี แล้วเทของในนั้นต่อหน้าเขา พลันเกิดเสียงฮือฮาขึ้นอีกระลอกเพราะสิ่งที่เธอมอบให้คือยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) หลายสิบกระปุก

“นี่แค่พร็อปฯ น่ะ เดี๋ยวลุงโอบจะดรามาอีก แต่โรง’บาลเรามีของจริงอยู่เยอะนะ มีพอให้นายสำส่อนไปจนถึงชาติหน้าเลย ใช่ไหมคะลุง”

เธอเสมองลุงโอบที่ยืนควันออกหูอยู่ไม่ไกลพลางยิ้มฉอเลาะ ท่านเก็บอารมณ์ตัวเองมาได้จนถึงตอนนี้ก็นับว่าไม่เสียชื่อที่เป็นผู้อาวุโสทั้งอายุและตำแหน่งงาน

ด้านองศากำหมัดข่มความพลุ่งพล่านเอาไว้พลางก้มหน้ามองพื้น เขากลัวหัวใจจะรับไม่ไหวถ้าเห็นแววตาชิงชังของเมียรักไปมากกว่านี้

เซลีนแค่นเสียงหัวเราะเบา ๆ เขาช่างน่าสังเวชเสียจริง เคยสงสัยว่าเขาจะเป็นอย่างไร ที่เธอทำให้เขารัก ในขณะเดียวกันก็กลั่นแกล้งเขาไม่ต่างจากนางมารร้ายไปพร้อม ๆ กับทำตัวเป็นนางเอกในละครที่ตัวเองสร้างขึ้น เพื่อจะได้หักหลังเขาอย่างเลือดเย็น

ยอมรับว่าเธอก็กลัวถ้าเห็นสารรูปองศาแล้วจะใจอ่อน แต่นี่เป็นงานชิ้นเอกของเธอเชียวนะ! คนเราจะหักห้ามใจไม่ยินดีกับความสำเร็จของตัวเองได้หรือ

“รู้สึกยังไงบ้างกับรสชาติความเจ็บปวดที่มันบาดลึกลงไปจนถึงกระดูก?” นิ้วชี้จิ้มหน้าอกเขาทีหนึ่ง “...ใจคอจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ ไม่สมเป็นนายเลย”

“พอเถอะเซล ฉันขอ” ใบหน้าหม่นหมองเงยขึ้นจ้องเธออย่างอ้อนวอน แวบหนึ่งหัวใจสาวสะท้านไหวกับดวงตาเศร้าสร้อยนั้นจึงตัดสายตาจากดวงตาสีเหล็กนั้นเสีย

“ก็ได้” หน้าสวยรั้นขึ้น “...งั้นเจอกันในศาลนะจ๊ะ”

เซลีนเน้นเสียงคำว่านะจ๊ะอย่างน่าหมั่นไส้ เมื่อได้ยินเช่นนั้น องศาหลุดเสียงสะอื้น ถูกขอหย่าทั้ง ๆ ที่ใจยังรัก มันยิ่งกว่าใจทั้งดวงถูกควักออกมาโยนให้กากินเสียอีก

+ + +

เซลีนหันไปมองแอ้มด้วยแววตาคลั่งแค้น ก่อนพุ่งเข้าไปกดไหล่หล่อนแล้วขึ้นคร่อม คิดบัญชีกับผัวเลวเรียบร้อยก็ถึงคิวของนังผู้หญิงร่านรัก หล่อนกลัวจนตัวสั่นได้แต่ร้องอ้อนวอนน่ารำคาญ แต่ไม่มีใครช่วยหล่อนได้หรอกแม้กระทั่ง ปรภ. ที่ก็รู้แผนการนี้เช่นกัน

“ฉันจะไม่ลดตัวไปตบเธอเป็นครั้งที่สอง แค่มีของขวัญจะให้ ในฐานะที่จัดงานได้ถูกใจฉันมาก ๆ เลย”

“ฉันไม่เอาของขวัญอะไรจากแกทั้งนั้น อย่ามายุ่งกับฉัน”

“อ๋อ ลืม... มันไม่ใช่ของขวัญหรอก แต่เธอลืมมันไว้ที่บ้านฉัน จำไม่ได้แล้วเหรอ”

แอ้มจำไม่ได้ว่าตัวเองไปลืมอะไรไว้ตอนไหน แต่เพียงชั่วอึดใจเซลีนก็ดึงกางเกงในออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อกาวน์ หากเท่านั้นยังไม่สาแก่ใจ หญิงสาวจับปลายคางแอ้มให้อยู่นิ่งแล้ววางมันทาบกับใบหน้าหล่อน แอ้มร้องไห้โฮ ส่วนเซลีนผละออกไปกดเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ

“ปาหี่จบแล้ว ทุกคนแก้ข่าวกันด้วยนะ หมอเซลไม่ได้โง่ หมอเซลแค่กำลังหาหลักฐาน แต่มันดันเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเสียนี่”

รอยยิ้มร้าย ๆ ปรากฏบนใบหน้าเธออีกครั้งตอนที่สายตามองไปทางลุงโอบ ไอ้แก่เจ้าเล่ห์ตอนนี้ก็หมดท่าไม่ต่างจากหลานเลวของมัน คงต้องแสดงไมตรีเสียหน่อยแล้วในฐานะหลานสะใภ้

เซลีนเดินเข้าไปกุมมือสองข้างของท่านไว้ ยิ้มเสแสร้งที่สุดเท่าที่จะยิ้มได้ ใบหน้าสวยเอียงซ้ายเล็กน้อยแล้วอวยพรว่า

“สู้ ๆ นะคะลุงโอบ ทนายหนูพร้อมแล้วค่ะ แต่ว่าลุงคงลำบากแย่เลย”

พูดจบก็เดินผละออกมาและหญิงสาวตั้งใจให้ไหล่ชนองศาที่ยืนเป็นเสาหินอยู่ได้ ทว่านั่นเพราะเขาเสียใจจนไม่อาจรับมือไหว ความผิดพลาดที่เขาทำในอดีตกำลังย้อนกลับมาทำลายชีวิต ไม่พอเท่านั้นยังต้องมาเสียคนที่รักสุดหัวใจไป

โลกของเขามันมืดลงทีละนิดจนดำสนิท...

ทว่าในบางครั้งมันก็ไม่หยุดฟาดฟันเราแค่นั้น เพราะในนาทีที่เราคิดว่าตัวเองทรมานจนถึงที่สุดแล้ว มักมีสิ่งที่ทำให้เราทรมานยิ่งกว่า

“แม่...”

เด็กชายคนหนึ่งทำให้ทุกคนหันไปตามเสียง เด็กชายอายุราวสิบขวบ สะพายเป้สีกรมจูงมือชายหนุ่มที่คาดว่าจะเป็นพ่อ แต่หยุดนิ่งจ้องหน้าแอ้มด้วยแววตาตกตะลึงระคนผิดหวัง

องศามองตามสายตาเด็กน้อย เห็นแอ้มน้ำตาไหลพรากปากสั่นมือสั่นทำอะไรไม่ถูก เขาก็เข้าใจได้ง่ายดายว่าสิ่งที่เขากับแอ้มทำ นอกจากจะเลวร้ายต่อเซลีนแล้ว มันยังทรามยิ่งกว่ากับผู้ชายและเด็กน้อยคู่นั้น

“ละ... ลูกพลับ”

แอ้มเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้น ดวงใจคล้ายจะขาดรอน ๆ ตอนที่แววตาผิดหวังคู่นั้นฟาดฟันหัวใจได้รุนแรงเสียยิ่งกว่าคมดาบ

“ในนั้นคือแม่จริง ๆ เหรอครับ”

มือเรียวชี้ไปที่จอโทรทัศน์ แม้เด็กชายพลับพลาจะอยู่ในวัยไร้เดียงสา แต่ใช่จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉายบนจอเรียกอะไร แม่ตัวเองกำลังเริงรักกับชายอื่นที่ไม่ใช่พ่อ ทั้งมีคลิปยืนยันเสียขนาดนี้

เซลีนไม่นึกว่าภาสกรจะพาลูกมาด้วย ที่เธอคิดไว้ไม่ใช่อย่างนี้ เพราะสำหรับคนหนึ่งคนที่ใจเปี่ยมด้วยรักมั่นคงเป็นภาพติดตาไปจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต

“มะ... ไม่ใช่นะลูก”

“อย่าดูลูก”

ภาสกรผู้เป็นพ่อที่เพิ่งตั้งสติได้เพราะไม่คิดว่าพาลูกมาแล้วจะต้องเจอเช่นนี้รีบยกมือปิดตาลูก ทว่าเด็กชายดึงมือพ่อออกแล้วพุ่งเข้าไปทุบหน้าขององศา

“ที่แม่ไม่กลับบ้านก็เพราะลุง ลุงมาทำลายครอบครัวผมทำไม ฮือ ๆๆ ลุงแย่งแม่ผมไปทำไม ผู้หญิงคนอื่นไม่มีแล้วเหรอครับ ทำไมต้องเป็นแม่ผมด้วย”

องศานิ่งงัน ร่างกายคล้ายหมดแรงไปเสียอย่างนั้น เขาทำร้ายจิตใจเซลีนไม่พอ ยังได้ชื่อว่าทำลายครอบครัวของเด็กตาดำ ๆ เขาไม่เคยรู้เลยว่าแอ้มมีครอบครัวแล้ว หล่อนบอกเพียงที่บ้านเปิดร้านขายของชำเล็ก ๆ อยู่ต่างจังหวัด มีพี่ชายชื่อภาสากรเป็นพนักงานบริษัทขนส่งเอกชน ซึ่งทำงานส่งเสียให้หล่อนเล่าเรียนจนจบหมอ และมีหลานชื่อพลับพลาเรียนอยู่ประถมศึกษา แต่เท่าที่เข้าใจได้ในตอนนี้ พลับพลาเป็นลูกชายของหล่อน

สมององศานึกถึงเหตุการณ์ในวัยเด็ก เขาพบว่าแม่พาผู้ชายเข้ามานอนในบ้าน เห็นแม่เปลือยกายนอนกอดกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อ และความรู้สึกไม่ต่างจากเด็กคนนี้

‘คุณทำแบบนี้กับผมทำไม คุณแย่งแม่ไปจากผมทำไม’

แม้แต่ประโยคของเขากับพลับพลาก็ยังเหมือนกัน แต่แม่เข้ามาเหวี่ยงเขาออกจากผู้ชายคนนั้น เด็กชายองศาเสียหลักล้มข้อศอกถลอก แต่ในแววตาแม่กลับไม่มีความสงสารเห็นใจ หรือถ้าจะมีก็คงมีให้เพียงชายชู้ที่ท่านกำลังปลอบประโลม

‘ไอ้ลูกบ้า แกอย่าบังอาจมาทำแบบนี้กับเขาเชียว’

‘แม่...’ องศาร้องไห้สะอึกสะอื้น หัวใจเหมือนกำลังแหลกสลาย แต่แม่ไม่หวั่นไหวกับน้ำตาลูก ทว่ากำลังประคองใบหน้าผู้ชายคนนั้นอย่างทะนุถนอม

‘ไม่เป็นไรมากใช่ไหมคะคุณ’

‘แม่ แม่ครับ แม่ไม่รักองกับพ่อแล้วเหรอครับ ไหนบอกจะรอพ่อกลับมา แล้วทำไมแม่ถึงทำแบบนี้ล่ะครับ’

เด็กน้อยไร้เดียงสาขยับเข้าไปกอดขาแม่ผู้เลี้ยงดูเขาด้วยความรักตลอดมา ทว่าใจท่านคงรังเกียจเขาหนักหนาถึงได้สะบัดขาโดยไม่คิดว่ามันจะแรงจนโดนหน้าเขา องศาเจ็บเหลือเกินแต่มันยังไม่เท่าหัวใจที่ปวดร้าว

แม่คนเดิมของเขาหายไปไหน...

‘ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ในเมื่อพ่อแกก็ไม่อยู่แล้วนี่ แล้วฉันจะรักแกไปทำไมทั้งที่รู้ว่าพ่อแกจะไม่กลับมาแล้วงั้นเหรอ’

‘แม่หมายความว่ายังไงครับ’

เท่าที่เขารู้พ่อไม่ได้มีผู้หญิงคนใหม่ แต่ที่อยู่กับแม่ไม่ได้ก็ด้วยนิสัยของแม่ต่างหาก แต่เขายังเลือกอยู่กับท่าน เพราะนอกจากเขาแล้วท่านก็ไม่เหลือใคร แต่ท่านกลับบอกว่าไม่จำเป็นต้องรักเขาเมื่อไม่มีพ่อ

ความรักที่เขาได้สัมผัสตลอดมาแค่เรื่องเสแสร้งงั้นหรือ

‘แกน่ะ เลิกถามคำถามโง่ ๆ แล้วออกไปให้พ้นหน้าฉันซะที ไม่รู้หรือไงว่าไม่มีใครต้องการแก พ่อแกไม่เอาแกแล้วอย่าหวังฉันจะเก็บแกไว้’

องศานิ่งงันน้ำตาไหลพราก กลิ่นอบอุ่นที่เขาเรียกว่ากลิ่นความรักทุกครั้งที่แม่กอดเขา แท้จริงแล้วมันคืออะไร ในเมื่อไออุ่นจากอกแม่คือเรื่องโกหก

‘ฉันน่าจะทำแท้งแกซะให้รู้แล้วรู้รอด’

คำพูดร้ายกาจเป็นร้อยเป็นพันจากคนรอบข้างยังไม่สาหัสเท่าคำนี้คำเดียวจากปากของคนเป็นแม่

องศาออกจากบ้านหลังนั้นรอนแรมไม่รู้จุดหมายปลายทาง โชคชะตาตลบหลังเมื่อถูกวิ่งราวจนเงินไม่เหลือ ต้องกอดเข่าเหน็บหนาวอยู่ป้ายรถเมล์ในคืนที่ฝนโหมกระหน่ำราวกับจะสาดซัดหัวใจเขาให้ย่อยยับ ทว่าต้องเงยหน้ามองร่างสูงของชายในชุดสูทสีดำ

‘ลุง’

ลุงโอบก้มมองเขา แววตาไร้ความรู้สึก มือหนึ่งของท่านกางร่มให้ตัวเอง อีกมือก็โยนร่มอีกคันให้เขา

‘กลับบ้าน’

ท่านบอกแค่นั้นแล้วหันหลังเดินกลับไปยังรถที่จอดอยู่ข้างทาง องศาไม่แปลกใจกับท่าทางเย็นชาและสายตาไร้อารมณ์เพราะพ่อเขาก็ไม่ต่างจากลุงโอบเท่าไหร่ จะมีก็แต่แม่ที่คอยให้อุ่นไอ ทว่ามันกลับเหน็บหนาวจนเขายากจะทานทน

เด็กชายกางร่มออกแล้วเดินตามท่านไป ความเงียบปกคลุมในรถมาเนิ่นนานกว่าที่ลุงจะเป็นฝ่ายบอกกับเขาว่า

‘พ่อกับแม่แกตายแล้ว แม่แกไปโวยวายที่โรงพยาบาลจนพ่อแกต้องพากลับบ้าน แล้วก็เกิดอุบัติเหตุตายคารถทั้งคู่’

งานศพพวกท่านคือสาแหตุที่ลุงโอบแต่งกายไว้ทุกข์สินะ ความจริงที่ได้รู้พาให้องศาตกตะลึงแต่เด็กชายไม่มีน้ำตา เขาเสียใจแต่ยิ่งกว่านั้นเขาโล่งใจมากกว่าที่ท่านไปสบาย ไม่ต้องเจ็บปวดและทุกข์ทนกับความรู้สึกต่าง ๆ บนโลกนี้อีกแล้ว

‘ความรักเป็นยังไงเหรอครับลุง’ เขาเอ่ยถามลุงอย่างเศร้าสร้อย กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลจนขอบตาปวดร้อนไปหมด

‘มันไม่มีหรอก’

น้ำเสียงไร้อารมณ์กล่าวเรียบ ๆ ใบหน้าคมเข้มของลุงโอบในตอนนั้นหันมามองหลานชายเพียงคนเดียวแล้วพูดอีก

‘เลิกยึดติดกับสิ่งที่ทำให้แกไม่มีความสุข แล้วหยุดถามในสิ่งที่แกไม่รู้จัก เพราะมันไม่มีอยู่จริง หน้าที่ของแกคือใช้ชีวิตอย่างที่แกต้องการ เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ก็พอ’

ความรักคือสิ่งที่เขาไม่รู้จักงั้นสินะ คงจะจริง เพราะในโลกนี้จะมีสิ่งใดจริงแท้เพราะแม้แต่ความรักของแม่ยังเป็นของปลอม...

เซลีนออกมาจากตรงนั้นเสียก่อนเพราะทนเห็นน้ำตาเด็กชายพลับพลาไม่ไหว ที่ผ่านมาเธอตามสืบประวัติแอ้มอย่างลับ ๆ จนรู้ว่าหล่อนมีสามีอยู่แล้วที่ต่างจังหวัด ผู้ชายคนนั้นรักหล่อนมาก ยอมทำงานหนักส่งเสียให้หล่อนได้เรียนสูง ๆ และหล่อนมีลูกกับเขาตอนอายุสิบเจ็บหนึ่งคน

จากที่ได้คุยกับภาสกร เซลีนพอจะรู้ว่าแอ้มเป็นคนประเภทขาดความยับยั้งชั่งใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้และได้เดี๋ยวนั้น ไม่สนด้วยซ้ำว่าจะเป็นของใครมาก่อน อย่างภาสกรก็เป็นผู้ชายที่หล่อนแย่งจากเพื่อนสนิทมาอีกที ซึ่งคงเป็นผลจากการเลี้ยงดูแบบผิด ๆ ของครอบครัว ยิ่งได้สามีที่ตามใจอย่างภาสกรหล่อนยิ่งเหลิง ก็ไม่แปลกที่หล่อนจะมีจุดจบเช่นนี้

“ไหวเปล่าพี่” ธารีที่ตามมาถามด้วยความห่วงใย

“พี่ไม่เป็นไร” เซลีนสูดจมูกกลั้นน้ำตา “เออ นี่นุ้งได้ส่งหลักฐานให้คณะกรรมการแล้วใช่ไหม”

“อือ พรุ่งนี้คงมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”

“ขอบใจนุ้งมาก ไม่ได้นุ้งพี่คงแย่”

เงื่อนไขเดียวในแผนเซลีนคือคำว่า ‘รัก’ จากปากองศา ต่อให้เธอจะได้ยินด้วยตัวเองหรือไม่ก็ตาม เธอคิดว่าการหย่าทั้งที่ยังรักจะสร้างความเจ็บปวดให้คู่รักอย่างแสนสาหัส

แต่กับคนที่ไม่ได้รัก... มันหมายถึงอิสรภาพนั่นเอง

เซลีนต้องมานั่งคิดแผนใหม่ โชคดีที่ธารีเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของร้านขนมหวานใต้ตึก เธอจึงสามารถดึงแอ้มเข้ามาในชีวิตองศาได้อีกครั้ง อีกทั้งยังช่วยพูดให้แอ้มกลายเป็นผู้หญิงน่ารำคาญมาป่วนชีวิตผัวเลวของเธอได้อย่างสะใจ

“เราต้องทำให้อิองมันรู้ ว่าพลังหญิงมันแข็งแกร่งแค่ไหน”

“จ้าแม่คุณ...”

หญิงสาวพูดทีเล่นทีจริงก่อนจะเก็บของกลับบ้าน ธารีเป็นห่วงพี่สาวแต่ไม่รู้จะช่วยอะไรได้มากกว่านี้ ก็ได้แต่หวังว่าเซลีนจะรับมือกับมันได้ดีเหมือนที่ผ่านมา

เป็นเวลาสี่ทุ่มที่องศากลับเข้าบ้าน ทั้งที่เขายังมีเคสด่วนต้องผ่าตัดคนไข้ แต่ด้วยสภาพจิตใจที่ไม่พร้อมหมอนาราต้องเข้ามารับช่วงแทน ส่วนเรื่องเขากับแอ้มตอนนี้มันจบแล้วจริง ๆ สามีหล่อนจะทำอย่างไรกับเขาก็สุดแล้วแต่ใจฝ่ายนั้นต้องการ

เขาเหนื่อยมากเหลือเกิน...

ในจังหวะที่เห็นเซลีนนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกพร้อมกระเป๋าหลายใบแต่ไม่ใช่กระเป๋าเดินทางของเจ้าหล่อน หัวใจห่อเหี่ยวของเขาก็อ่อนแรงคล้ายจะหยุดเต้นเสียให้ได้

“ฉันเก็บของให้แล้ว” เสียงพูดเย็นชาเอ่ยออกมาจากผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ “ตามที่ตกลงกันก่อนแต่ง บ้านหลังนี้มันคือสินสอด เพราะงั้น... หลังหย่ามันต้องเป็นของฉัน”

องศานิ่งงันจ้องหน้าภรรยาสุดที่รัก อยากเห็นแววของความรักจากดวงตาแสนหวาน แต่หญิงสาวไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำ เขาคงไม่ต่างจากเนื้อร้ายที่เธอพร้อมจะตัดออกจากชีวิตได้ตลอดเวลา แต่จะมาเล่นบทเหยื่อแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ เพราะเขาเป็นฝ่ายทำร้ายจิตใจเธอก่อน แค่สลับกันที่ตอนนี้เธอเป็นฝ่ายขอหย่าเขาก็เท่านั้นเอง

“ต้องการจากเค้าแค่นี้จริง ๆ เหรอเซล”

“ใช่” เธอตอบเสียงแข็ง ไม่มองหน้าว่าที่อดีตสามีเพราะกลัวจะพ่ายแพ้ให้แก่ความสงสารเล็ก ๆ ที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจ

สิ่งที่เธอต้องการจากเขาก็มีแค่นี้ แค่ทำให้รัก ทำให้เจ็บปวดและสุดท้ายคือทำให้ไม่เหลืออะไรแม้แต่ความภาคภูมิใจ ถึงมันต้องแลกมาด้วยการกรีดเฉือนหัวใจตัวเองมันก็ยังน่ายินดี

องศาปล่อยน้ำตาที่กลั้นไว้ไม่ไหวอีกต่อไป พลันทำในสิ่งที่เซลีนไม่คิดว่าจะได้เห็น เขาค่อย ๆ ทรุดกายลงนั่งคุกเข่ากับพื้น เสียงสะอื้นบีบหัวใจคนฟังให้เจ็บร้าว

ขอแค่มีเธอเคียงข้างกันต่อไปอีกแค่สิบนาที เขายอมแลกทุกอย่างได้แม้กระทั่งศักดิ์ศรีของตัวเอง

“เรามาเริ่มกันใหม่ได้ไหมเซล”

ชายหนุ่มเข้าใจในการกระทำของเมียรัก เพราะไม่ว่าใครก็ไม่อาจลืมในสิ่งที่เขาทำได้ เพราะงั้นสำหรับเขาในตอนนี้จึงไม่มีความโกรธเกลียดชิงชังต่อเธอเลยแม้แต่น้อย จะมีก็เพียงความรักและหัวใจที่ยกให้เธอทั้งหมดแล้ว

คนเราตกหลุมรักลูกแมวที่ช่วยมาจากข้างทางตั้งแต่วันแรกได้อย่างไร เวลาสามเดือนที่ผ่านมาก็ทำให้เขารักเซลีนได้มากกว่าอย่างนั้น

“เค้าขอร้อง... ที่ผ่านมาก็ให้มันแล้วกันไป ต่อจากนี้เค้าจะรักเซลให้มากกว่าวันที่แล้วมา ขอแค่อย่าไปจากเค้าได้มั้ย”

เซลีนกลั้นน้ำตาจนปวดหัวตาไปหมด ดวงหน้าสวยหันมององศาแววตาแน่วแน่ไม่หวั่นไหว เธอไม่มีอะไรดีสำหรับเขา เป็นได้แค่คนใช้ไม่ใช่เมีย และระหว่างเธอกับเขาไม่มีสิ่งใดเหนี่ยวรั้งกันไว้ได้อีก ทุกคำพูดของเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอยังจดจำมันได้ แล้วเธอก็ไม่เชื่อว่าคนเราจะสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ทำลายชีวิตตัวเองได้เหมือนกัน

ต่างคนต่างไปนั่นแหละดีแล้ว...

“ฉันให้อิสระนายแล้ว อย่ามาเรียกร้องอะไรอีกเพราะฉันจะไม่ให้นายแม้แต่อย่างเดียว”

องศาหลุบสายตาลงต่ำ เป็นอย่างที่เขากลัวมาตลอดว่าแววตาคู่นั้นอันตรายเกินกว่าที่เขาจะทนได้ มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด โกรธแค้นและชิงชังจนความรู้สึกเขาในตอนนี้รับมันไม่ไหว

“เรื่องระหว่างเรามีความหมายสำหรับที่รักหรือเปล่า”

“จะอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นแค่สามเดือน” ขนาดเธอทุ่มเทหัวใจให้เป็นปี ๆ มันยังไม่มีค่าให้เขาต้องใส่ใจเลย

“แล้วที่เซลบอกว่ารักเค้า... นั่นไม่ใช่เรื่องโกหกใช่ไหม”

เซลีนสะอึกกับคำถาม พยายามห้ามใจไม่ให้สั่นยามที่เห็นภาพอ่อนแอของผู้ชายตรงหน้า เขาเป็นคนเดียวกับที่พาหญิงชู้มาขย่มกันบนเตียงของเธอ เป็นคนเดียวกับที่ทำให้เธอไม่อาจข่มตาหลับได้เพราะใจเต็มไปด้วยความแค้น ต่อให้ตอนนั้นองศาไม่ได้รักกัน แต่คนเราใช้ชีวิตร่วมกันมา มันไม่มีความเห็นใจกันเลยหรือไร

“มันหมดไปตั้งแต่วันที่นายพานังนั่นมากระเด้าบนเตียงฉันแล้ว”

“...”

“...แล้วฉันก็โคตรเกลียดเลยที่ต้องแสร้งทำเป็นว่ารักนายทั้งที่ฉันอยากฆ่านายให้ตายคามือฉันอยู่ทุกวัน ตอนนี้เราก็ควรต่างคนต่างไป นายได้ชีวิตโสดที่นายใฝ่ฝัน ส่วนฉันก็จะใช้ชีวิตโดยเห็นค่าของตัวเองในทุก ๆ นาที”

ร่างสวยผุดลุกออกจากโซฟาแล้วจะเดินจากไป ทว่าองศากลับเอี้ยวตัวมากอดขาเธอไว้

“ปล่อยนะอง”

“เค้ารักตัวเองนะ รักจนไม่รู้จะรักยังไง”

องศาร้องไห้ราวเด็กน้อย เขาเสียทุกอย่างไปในวันเดียวกันได้ แต่เขาไม่อยากเสียเธอไป ขอเพียงแค่เซลีนเห็นใจ เขายินดีจะลืมทุกอย่างแล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยใจที่รักเธอ

“ให้โอกาสเค้านะที่รัก ฮึก...”

ใจของเซลีนเจ็บหนึบคล้ายถูกของหนักถ่วงทับ แน่นอนเธอโกหกที่ว่าไม่รัก แต่รักให้ตายอย่างไรเธอก็ไม่เอา

“หยุดใช้คำว่ารักมาอ้างซะทีเหอะ นายไม่มีทางเลือกฉันมากกว่าอิสระที่นายต้องการหรอก”

ใจขององศากระตุกวูบหนึ่ง อิสระงั้นหรือ... อิสระที่ไม่มีเธอมันจะมีความหมายอะไร

“ปล่อยฉันซะที”

เซลีนแกะมืออ่อนแรงของเขาที่กอดแน่น แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนเสีย ทิ้งให้องศาเผชิญความรู้สึกใจสลายเพียงลำพัง น้ำตาลูกผู้ชายรินไหลอาบแก้ม จนปัญญาเหลือเกินที่จะทำให้เธอกลับมาเดินร่วมทาง มันถึงเวลาแล้วจริง ๆ หรือที่เขาจะต้องปล่อยมือจากเธอ...

แต่รสชาติของการแก้แค้นช่างขื่นขม เซลีนตระหนักถึงมันเป็นอย่างดี หญิงสาวพิงหลังกับบานประตูแล้วจู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

เธอทำสำเร็จแล้วนะ...

แต่ทำไมหัวใจถึงได้ทรมานแบบนี้ มันเป็นแค่ความรู้สึกชั่วคราวใช่ไหม เดี๋ยวเดียวมันก็คงจะผ่านไปและเธอต้องผ่านมันไปให้ได้ใช่หรือเปล่า ทว่าทุกวินาทีที่เดินไปทำไมมันยาวนานเหลือเกิน ราวกับความเจ็บปวดนี้จะอยู่กับเธอไม่มีวันจางหาย หญิงสาวยกมือปิดหน้าร้องไห้ระบายความอัดอั้นผ่านหยาดน้ำตา มันเป็นทางเดียวที่ช่วยเธอได้ในตอนนี้

+ + +

องศาถูกไล่ออกซึ่งหมอนาราเข้ามาเป็นหัวหน้าแผนกจากการโหวต ส่วนลุงโอบถูกปลดจากตำแหน่งประธานและให้พ้นสภาพบุคลากร โดยคนที่มารับช่วงต่อคือคุณศรา แต่ก็ต้องปกปิดเรื่องในวันเกิดองศาเพื่อรักษาชื่อเสียงโรงพยาล เพราะเมื่อไหร่ที่มันตกไปอยู่ในมือนักข่าว การบริหารงานของท่านคงเป็นไปอย่างยากลำบาก

นั่นเป็นอย่างที่เซลีนคิดไว้ เธอเลยให้ธารีและน้องในสังกัดเข้าไปคุยกับทุกคนในเหตุการณ์ตั้งแต่วันเกิดเรื่องแล้ว ด้านวินธัยก็ให้เลขาติดต่อขอบริจาคเงินจำนวนมาก สร้างความน่าเชื่อถือให้ขั้วอำนาจฝั่งคุณศราได้อย่างหนักแน่น

ในขณะที่ชีวิตเซลีนไปได้สวย แอ้มจำใจต้องจบกับองศา และต้องกลับบ้านต่างจังหวัดทันที เช็คห้าล้านจากลุงโอบก็โดนท่านอายัดเพราะหล่อนเล่นไม่ซื่อ ไหนจะถูกเซลีนฟ้องเรียกค่าเสียหายที่มาเป็นชู้กับองศา และภาสกรยังมาฟ้องหย่ากับขอสิทธิ์เลี้ยงดูลูกอีก แถมไปสมัครงานที่ไหนก็ต้องอับอายเพราะคลิปบ้า ๆ นั่น ต่อจากนี้ชะตากรรมหล่อนจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้เลย

ในส่วนขององศาก็ตกที่นั่งลำบาก หญิงสาวให้ทนายจัดการเรื่องฟ้องหย่า มีข้อเรียกร้องเรียกความเป็นธรรมให้ตนเองในฐานะผู้ถูกกระทำ

ด้านลุงโอบที่ไม่คิดว่าตัวเองจะถูกเซลีนเล่นงานได้ขนาดนี้ก็สนับสนุนให้เขาฟ้องกลับฐานที่เธอวางยากล่อมประสาท ซึ่งข้อนี้องศาเพิ่งรู้ เขาไม่คิดว่าเซลีนจะทำถึงขนาดนั้นและที่สำคัญลุงไม่เคยบอกเขา ทั้งที่เขาปรึกษาท่านกลัวตัวเองป่วยร้ายแรงและตอนนั้นท่านก็ขอเก็บตัวอย่างเลือดไปตรวจสอบแต่ก็หายเงียบ

ทว่าต่างกรรมต่างวาระ หากเขาเล่นประเด็นนี้เซลีนจะเดือดร้อน ไหนจะเรื่องที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวแอบติดเครื่องดักฟังอีก ชายหนุ่มจึงตัดสินใจไม่สู้ และยินยอมยกสินสมรสทั้งหมดให้เธอโดยไม่มีเงื่อนไข นั่นรวมถึงผลประกอบการจากหุ้นจำนวนมากที่เขามีอยู่

“แกจะบ้าเหรอไอ้อง ผู้หญิงคนนั้นทำลายชีวิตแกนะ ตอนนี้แกเหลืออะไรให้ภูมิใจบ้างไหม”

คลิปเริงรักขององศายังว่อนอยู่ในอินเทอร์เน็ต ท่านเองพยายามตามลบ เช่นเดียวกับฝ่ายศรา แต่มันก็ยังผุดออกมาเหมือนดอกเห็ด ถึงท่านไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป แล้วองศายังมาทำใจเย็นกับคนที่ทำลายชีวิตตัวเองอยู่แบบนี้น่ะหรือ

“ชีวิตผมพังคนเดียวก็เกินพอแล้ว ผมไม่อยากลากคนที่ต้องเสียใจเพราะผมอยู่ตลอดมาตกนรกด้วย”

เขาทำให้เซลีนเจ็บปวด ทำตัวไม่ต่างจากที่แม่เคยทำกับตัวเอง แต่เขากลับไม่สะทกสะท้าน เพราะชีวิตเขาเลือกทำตามที่ใจต้องการมาตลอด

เขาไม่สนใจว่าความสุขที่ได้รับมันจะกลายเป็นความทุกข์ของใครด้วยซ้ำ คิดแค่ว่าแค่หาความสุขใส่ตัว ไม่ได้ทำลายครอบครัวของใคร ส่วนครอบครัวของเขากับเซลีนก็เป็นแค่การเมืองน้ำเน่า ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องรักษามัน

ขนาดแม่เขายังทำทุกอย่างเพื่อสนองความต้องการตัวเองได้เลย  แถมมันทำแล้วสนุกเสียด้วย มีเหตุผลอะไรที่เขาจะทำไม่ได้ล่ะ... แต่ทั้งหมดนั้นมันก็แค่การหาเหตุผลเพื่อเข้าข้างตัวเองอย่างคนเห็นแก่ตัว

ทุกคนมีปีศาจซ่อนอยู่ในใจ และองศาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถูกมันครอบงำจนกลายเป็นประเภทเดียวกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ทำลายครอบครัวของเด็กน้อยตาดำ ๆ คนหนึ่งไปแล้ว

เรื่องนี้จะเป็นตราบาปในใจเขาไปจนวันตาย มันคือบทเรียนล้ำค่าของการใช้ชีวิตโดยไม่สนใจใครแม้กระทั่งคนที่รักเขาสุดหัวใจ

สุดท้ายเขาก็กลายเป็นสิ่งที่ตัวเองจงเกลียดจงชัง มันก็คงจะถึงเวลาแล้วที่เขาต้องชดใช้กรรม แล้วก็ไม่ควรดึงให้ใครลงมาทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้อีก

“เออ เอาเข้าไป ไอ้พระเอก”

ลุงโอบยกมือยีหัว ไม่เหลือมาดเย่อหยิ่งจองหองที่องศาคุ้นชินมาตั้งแต่เกิด เพราะท่านก็ลำบากไม่ต่างจากเขา

“งั้นฉันก็ต้องตกนรกเพราะแกเหมือนกัน ที่ฉันต้องมาหางานทำตอนแก่แบบนี้ก็เพราะแก จ่ายฉันมาสิ”

ท่านอดประชดไม่ได้จริง ๆ ไอ้หลานคนนี้มันยังไงกัน

“ลุงก็ไปฟ้องเอา” องศาบอกเสียงเรียบ

“ไอ้อง!”

คนเราแก่แล้วจะเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า ขี้ประชด เรียกร้องความสนใจ ลุงเขาบางทีก็นิสัยเหมือนเด็ก แต่เขารู้ว่าท่านไม่ได้พูดจริง

“แกตั้งสติสิวะ ฉันไม่ได้เลี้ยงแกให้โตมาเป็นควายแบบนี้นะ”

องศาหัวเราะในลำคอ นึกสมเพชตัวเองอย่างบอกไม่ถูก ก่อนสายตาคมปลาบจะช้อนมองลุงโอบที่ท่านโวยวายเขาตั้งแต่เข้ามาในคอนโด

“ลุงไม่มีวันเข้าใจหรอกครับ”

มันคือรัก...

รักที่ท่านไม่เคยรู้จัก และเขาเองก็เพิ่งรู้ว่ามันสามารถเปลี่ยนคนเห็นแก่ตัวคนหนึ่งให้ยอมแลกทุกอย่างเพื่อมัน

“จะถึงเวลานัดสัมภาษณ์แล้วนะครับลุง” เขาเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากคุย

เมื่อองศาเป็นแบบนี้ลุงโอบก็จนปัญญาจะโน้มน้าว ท่านคว้าเสื้อสูทกับกระเป๋าเอกสารที่ต้องใช้สมัครงานออกไปอย่างหัวเสีย

ส่วนองศาเดินไปหยิบขวดเหล้าในห้องเก็บของมาซดก่อนเดินไปทิ้งตัวนอนบนเตียง ปล่อยน้ำตาให้มันรินไหลและให้หัวใจจมจ่อมกับความเจ็บปวดเสียใจเสียให้พอ

การตัดสินใจขององศาทำให้เซลีนแปลกใจ อะไรมันจะง่ายดายปานนี้กัน ง่ายจนเธอเองก็รู้สึกแย่ เธออุตส่าห์เตรียมทนายพร้อมสู้ทุกคดีที่คิดว่าตัวเองจะโดนแล้วแท้ ๆ แต่เขาไม่เหมือนคนที่เธอเคยรู้จักเลย หรือเพราะอกหักจนเพี้ยนไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอก็ยิ่งไม่ได้รู้สึกดีเลย

เพราะใจก็อดห่วงไม่ได้ว่าองศาจะเป็นอย่างไร ใช้ชีวิตแบบไหน ด้วยตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ซึ่งความจริงที่ว่าเธอได้ทำลายทั้งชีวิตและอาชีพของเขาจนป่นปี้ยังทำให้เธอนึกเสียใจ

อย่างไรก็ตามเซลีนปฏิเสธที่ไปสำนักงานเขตเพราะยังไม่พร้อมเจอหน้ากัน แต่เซ็นใบหย่าที่องศาเคยเซ็นทิ้งไว้แล้วให้ทนายจัดการต่อ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันปลดโซ่ตรวนที่ล่ามขาออกไปได้เสียที

“เซล”

ธชาที่มานั่งดื่มเป็นเพื่อนสาวโสดหมาด ๆ ซึ่งตกเป็นเป้าสายตาของทั้งหญิงชายในร้านเหล้า ด้วยการแต่งกายทันสมัยและรูปลักษณ์งดงามโบกมือไปมาผ่านหน้าเธอ แต่เซลีนก็ยังเหม่อลอยจนเขาต้องสะกิด

“เซลีน เฮ้!”

“ไง”

เซลีนหน้าเหลอหลา เพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฟังที่เพื่อนพูด ในความคิดมีแต่เรื่องของอดีตสามี

มันอาจเป็นเรื่องธรรมดาที่จะคิดถึงใครสักคนที่เราเคยรักมาก ๆ ทั้งในสิ่งที่ร้ายและดี แต่ในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกนั้นมันก็คงค่อย ๆ จางลงไปเอง เธอเชื่ออย่างนั้น...

“เรื่องที่ถามเมื่อกี้ไง”

แผลใจของเซลีนครั้งนี้ยังเป็นแผลสด เขาเข้าใจ แต่ยิ่งเห็นเธอเจ็บปวดกับมันมากเท่าไหร่เขาก็ไม่อยากรอเวลา

ธชารวบมือเซลีนมากุมไว้ หญิงสาวแปลกใจในท่าทีของเพื่อนรัก แต่พอจ้องตาเขากลับพบความรู้สึกบางอย่างที่เธอพยายามมองข้ามมาโดยตลอด

“เซลรู้ใช่ไหมว่าเราคิดยังไงกับเซล”

“...”

“เราชอบเซลมาตลอด ต่อให้เซลจะแต่งงานกับใครเราก็ยังชอบ และเราเจ็บทุกครั้งที่เห็นเซลต้องเศร้า” มือใหญ่กระชับมือเธอเข้ามาแนบหัวใจ

“ชา ปล่อยเหอะ มันแปลก ๆ”

ธชาสุภาพอ่อนโยนกับเธอเสมอเธอรู้ แต่ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยถูกตัวเธอก่อน เลยค่อนข้างรู้สึกแปลก

“ถ้าอยากให้เราปล่อย ตอบเรามาก่อนได้มะ”

แน่ะ... ไอ้นี่มันแอบร้ายเว้ย

“อือ ว่ามา”

“คบกันมะ”

“...”

“เราอยากทำให้เซลรู้สึกดี แล้วก็ลืมผู้ชายคนนั้นได้ซะที”

“ไม่สิชา”

เธอค่อนข้างตกใจกับความคิดเขา ธชานิ่วหน้าไม่เข้าใจ

“...เธอจะเข้าไปในชีวิตของใครสักคนแบบนี้ไม่ได้ เธอไม่ใช่คนที่ใครจะใช้เพื่อลืมอีกคนนะ”

“แต่เราอยากดูแลเซลนะ เราทนไม่ไหวที่เห็นเซลเศร้า”

“ฉันไม่ได้ปิดกั้นตัวเองนะชา แต่แค่อยากมั่นใจว่าฉันลืมคนเก่าได้แล้ว เพราะฉันต้องให้เกียรติเธอ ด้วยการทำให้เธอรู้สึกว่าเธอไม่ใช่ตัวแทนของใคร ไม่ทำให้ใครก็ตามมองเธอไม่ดี ว่าที่ฉันยอมให้เธอเข้ามาในชีวิตเพราะฉันเดียวดายจนต้องให้เธอมาแก้เหงา แล้วทั้งที่เธอรู้ทั้งรู้แต่เธอก็ยังยอม ฉันผ่านจุดที่ใครต่อใครไม่เข้าใจฉันแบบนั้นมาแล้ว เธอเก็ตใช่ไหม”

ธชาผ่อนลมหายใจพลางหลุบสายตาลงต่ำ ก่อนระบายยิ้มบาง ๆ เพราะทั้งเสียดายแต่ก็เข้าใจเธออยู่ในที มันคงเร็วเกินไปที่จะเผยความรู้สึก จึงไม่แปลกใจหากเซลีนจะต่อต้าน

“เรารอได้เสมอแหละ” เขารอเธอมาตั้งนานแล้วนี่นา “ว่าแต่เซลเถอะ จะไม่ตีตัวออกห่างเราแน่นะ” เขาหรี่ตามองคนที่ไม่อาจข้ามเส้นคำว่าเพื่อนได้

“ฉันแมนพอย่ะ”

พูดแล้วก็หัวเราะกับเขาอย่างสบายใจ ชอบที่พูดอะไรกันตรง ๆ ได้โดยที่อีกฝ่ายก็พร้อมเข้าใจเสมอ

พอดื่มได้ที่ก็เริ่มปวดฉี่ เซลีนจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ทว่าในจังหวะที่จะเดินกลับออกมา ดันมีใครบางคนกระชากเธอเข้าไปกอดจากทางด้านหลัง

“ว้าย! ปล่อยนะ”

เซลีนดิ้นสุดแรง แม้ไม่เห็นหน้าแต่จากกลิ่นที่คุ้นเคยจึงมั่นใจว่าเป็นใคร เขามาที่นี่ได้อย่างไร บังเอิญหรือตั้งใจกันแน่

“องศา ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”

“จำกลิ่นผัวได้ด้วยเหรอ”

เขากระซิบข้างหู ดันร่างสวยชิดผนังแล้วกักขังหญิงสาวไว้ด้วยกำแพงกาย กลิ่นเหล้าฉุนจัดจนเธอนึกว่าเขาดื่มมาทั้งโรงงาน

อันที่จริงเขาบังเอิญเห็นเธอ แต่เซลีนคุยสนุกอยู่กับผู้ชายคนใหม่จนไม่ทันได้มองเขา และองศาอยากทักทายเมียรักด้วยคำพูดแสนหวาน แต่มันปลิวหายไปแล้วตอนเห็นเธอจับมือถือแขนกับหมอนั่น

“นึกว่าหลงกลิ่นใหม่จนลืมกันไปแล้ว”

“น่าเกลียด!”

เซลีนเอ็ดเสียงดัง พอเห็นเธอโกรธ องศาก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ เพราะหึงแท้ ๆ เลยพูดหมา ๆ ออกไปจนได้ แถมสายตาดันถูกดึงดูดให้มองร่องอกอวบอิ่มของเธอเสียนี่ พูดไม่ออกเลยทีเดียวเมื่อเห็นความน่าปรารถนาอันคุ้นเคย นางฟ้าปีกบางของเขายังเย้ายวนและอันตรายเสมอไม่เคยเปลี่ยน

แต่นึกแล้วก็น้อยใจ เดือนก่อนเขาเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ยังแตะต้องเรือนร่างเธอทุกส่วนที่ต้องการได้อยู่เลย ตอนนี้กลายเป็นเหมือนคนแปลกหน้า ที่แม้แต่มองหน้าอกเธอยังเป็นเรื่องผิด

จะว่าไปเซลีนก็ทุ่มสุดตัวเหมือนกันนะ ถึงขนาดยอมพลีกายมัดใจเพื่อจะได้ทิ้งเขาในภายหลัง แต่ทว่าเรื่องนี้แหละที่เขายังคงต้องหาคำตอบ...

“นี่แน่ะ ออกไป”

เซลีนทุบอกเขาแรง ๆ แต่พอจะผลักเขา ร่างหนาใหญ่กลับไม่ไหวติง ยังคงก้มมองหน้าเธอและกดยิ้มเจ้าเล่ห์แถมแววตายังแพรวพราว

“ช่วยด้วยค่ะ ไอ้นี่มันลวนลามฉัน”

“เราเป็นผัวเมียกันครับ” เขาหันไปบอกคนที่เธอร้องให้ช่วยแทบจะทันที

“ผัวเก่าค่ะ”

พูดจบเธอก็เม้มปากกลืนเสียงลงไป ราวกับไม่อยากให้ใครรู้อดีตระหว่างกัน องศาหัวเราะชอบใจ ยกมือปิดปากเธอแล้วอธิบายกับพลเมืองดี

“พอผมไม่ทำการบ้าน เมียก็หนีเที่ยวน่ะครับ เหนื่อยต้องออกมาตามตลอดเลย”

ให้ตาย... ไอ้บ้าองศามันไม่มียางอายเลยหรือไร พูดออกมาได้ไม่อายปาก เธอได้ทีก็งับมือเขาเต็มแรงจนชายหนุ่มยอมปล่อยมือจากปากแล้วพูดเสียงแหว ๆ

“เจ็บนะ! กัดมาได้”

“สมควร”

“นี่ผัวนะ”

“ผัวเก่าโว้ย!!!”

เธอดิ้นเร่า ๆ จนเส้นผมกระจายเพราะอยากหลุดจากวงแขนใหญ่ แต่อย่างไรก็สู้แรงเขาไม่ได้เลย

“น่า ยังไงฉันก็ผัว”

องศายิ้มตาหยี มีเสียงหัวเราะเบา ๆ หลุดออกมา เซลีนน่าค้นหาเหลือเกิน เธอมีทั้งด้านที่เรียบร้อย อ่อนหวาน เซ็กซี่ก็ได้ เร้าใจก็เป็น

การได้เห็นเซลีนพยศแบบนี้ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเขา อดคิดไม่ได้ว่าเธอจะมีมุมไหนซ่อนอยู่อีกนะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะค้นใจเธอดูทุกซอกทุกมุมไปเลย

“เราหย่ากันแล้ว”

เธอเน้นคำว่า ‘หย่า’ ได้หนักแน่นกระแทกใจไม่แพ้แววตาเย็นชาที่เธอมองมา ถ้าเขาตายเพราะคำพูดและสายตาเธอได้ เขาคงตายไปแล้วเป็นพัน ๆ ครั้ง

“ก็เลยหาผู้ชายคนใหม่มาเสียบทันที?”

เอาอีกแล้ว... ปากหนอปาก สมควรต้องให้เพื่อนหมอสักคนช่วยผ่าหมาออกไปจริง ๆ

“อย่าเอาตัวเองมาตัดสินคนอื่นได้มะ”

“อ้อเหรอครับ”

คนกวนประสาทยักไหล่ยียวน ก่อนโน้มใบหน้าลงไปใกล้ดวงหน้าสวยจัด

ด้านเซลีนแม้จะหวั่นใจแต่เธอไม่เสียจริต ถ้าเขาคิดว่าทำแค่นี้แล้วเธอจะหงอ บอกเลยว่าคิดผิด

“ทำไมเหรอ”

เธอวาดเรียวแขนเล็กโอบรอบลำคอคนเมา สายตาแพรวพราวหวานเชื่อมแต่เจือแววเย้ยหยันอยู่ในที

“ใจจะขาดเลยเหรอที่ไม่มีฉันแล้ว แต่แย่หน่อยนะ... ฉันน่ะ ถนัดแต่ทิ้ง ไม่ถนัดเก็บมาเล่นใหม่”

เขาทำเสียง ‘จิ๊’ รัว ๆ เพื่อเสริมคำพูดที่ว่า

“ที่รักนี่ไม่เบาเลยนะ คาสโนว่าตัวแม่เลยสิท่า... ทำไมไม่เป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนคบกันล่ะ พ่อจะล่อจนฟ้าเหลืองทุกคืนเลย”

ความอ่อนหวานทั้งหมดที่ได้รับจากเธอล้วนแต่เสแสร้ง ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนนี้ปั่นหัวได้อีกเป็นอันขาด

“ไอ้เวร!”

ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องแกล้งทำดีกับเขาอีกต่อไป มือที่โอบลำคอองศาเปลี่ยนเป็นขยุ้มท้ายทอยเขาแล้วรั้งออกไป

องศาเจ็บเหมือนหนังหัวจะหลุดแต่แค่นี้เธอคิดว่าเขาจะยอมแพ้งั้นหรือ ชายหนุ่มเลยทำคอแข็งต่อต้านแรงดึงของเธอแล้วยิ้มให้ ราวกับว่าไม่รู้สึกอะไร

คิ้วงามของเซลีนขมวดมุ่น ทนได้งั้นหรือ... ดูซิจะทนได้แค่ไหนกัน เธอปล่อยมือจากศีรษะแล้วเปลี่ยนมาทุบตีเขาชนิดที่ไม่ออมแรง แต่เขาเป็นพระอิฐพระปูนหรือไรถึงได้ไม่สะทกสะท้าน แถมลอยหน้าพูดอีก

“อะ เอาที่สบายใจ”

“เป็นควายหรือไงวะ ตีเท่าไหร่ก็ไม่เจ็บเนี่ย”

“ก็ถ้าไม่ใช่ควายแล้วจะเจ็บแบบนี้เหรอ”

แววเศร้าสร้อยแวบเข้ามาในดวงตาสีเหล็กขององศา จนเซลีนเผลอหลบตาแต่ก็แค่เสี้ยวนาที

“ก็สมควรแล้วไหม ฉันยังเป็นควายมาเป็นปี ๆ นายเป็นแค่นี้อย่ามาเรียกร้องความสนใจเหมือนหมาโดนเตะหน่อยเลย”

องศาชะงักนิ่ง วงแขนที่กักขังเธอไว้กลับไม่มีแรงเอาเสียดื้อ ๆ ความรู้สึกผิดกระแทกอัดเข้ามาในใจจนรู้สึกอยากร้องไห้ จริงอย่างที่เธอพูดนั่นแหละ... เจ็บแค่นี้มันยังไม่เท่ากับที่เขาทำให้เธอเจ็บเลย

“ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีกเลยนะ”

เซลีนผลักเขาออก แต่เขาตอบโต้ด้วยการกอดเธอเอาไว้แน่น ความรู้สึกกลัวอย่างประหลาดก่อตัวขึ้นมาในใจเขา

ช่วงเวลาที่จากกันองศาคิดว่าจะลืมเธอได้ในสักวัน แต่ไม่ว่าเขาจะคิดหรือทำอะไรไปที่ไหน ก็ยังมีเธอวนเวียนเข้ามาในหัวใจ ยิ่งห่างกันนานเท่าไหร่ใจเขาก็เฉียดใกล้คำว่าจะขาดใจมากเท่านั้น จนถึงจุดหนึ่งมันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป

“จะลืมฉันเพื่อไปคบมันงั้นเหรอ...”

แต่คงเพราะความหึงผสมน้อยใจ ตอนถามเธอไปแบบนี้อ้อมกอดเขากลับเต็มไปด้วยโทสะ หากเซลีนก็ตงิดใจ เหมือนเขารับรู้บทสนทนาของเธอกับธชาอย่างไรอย่างนั้น

“คนเราต้อง move on ป่ะล่ะ”

องศาไม่พูดอะไร แต่ในความสัมพันธ์ครั้งนี้เขาคงเป็นคนเดียวที่ไม่สามารถทิ้งอดีตไว้ได้ อ้อมแขนแกร่งรัดเธอแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มหายใจไม่ออก

หากกลืนกินเมียรักลงไปทั้งตัวได้เขาคงทำไปนานแล้ว ไม่หลงเหลือให้ไอ้ผู้ชายหน้าไหนมาแตะต้อง

“ถ้าเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ อย่างน้อยเรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม”

ทันใดนั้นเอง...

“โอ๊ย!”

เขาร้องเสียงหลงพร้อมกับทรุดเข่าลงกับพื้น จุกจนหน้าเขียวเพราะเซลีนใช้เข่ากระแทกกล่องดวงใจ แถมมือบางยังผลักไหล่เขาจนหงายหลังอีก

“ฉันไม่นิยมเป็นเพื่อนกับผัวเก่าโว้ย”

“งั้นฉันจะเริ่มจีบเธอใหม่”

เซลีนที่กำลังจะเดินหนีเป็นต้องชะงักงัน เพราะคำประกาศกร้าว ทุกคนบริเวณนั้นให้มองมาเป็นตาเดียวกัน นี่เธอฟังไม่ผิดไปใช่ไหม

“ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจเธอที่เป็นแบบนี้ให้ได้ ต่อให้เธอไม่ใช่สาวเรียบร้อย ไม่ได้พูดเพราะ ไม่ได้ทำงานเก่งหรือทำกับข้าวอร่อย  แต่เป็นตัวของตัวเองอย่างนี้ก็พอ หรือต่อให้เธอไม่ให้โอกาสฉัน ฉันก็จะหน้าด้านต่อไป”

“รู้มะ นายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่ยอมรับความจริงแล้วเลิกมากวนฉันก็พอ”

เราต่างฝ่ายต่างสร้างแผลใจให้กันและกัน ดันทุรังอยู่กันไปสักวันก็ต้องขุดเรื่องเก่า ๆ ขึ้นมาทำร้ายกันอีก

ตอนนี้เธอแค่อยากให้เขาก้าวเดินต่อไปให้ได้ เก็บความเจ็บปวดเสียใจเอาไว้เป็นบทเรียน วันข้างหน้าจะได้ไม่ทำพลาดแบบเดิม และได้แต่ภาวนาให้องศาเจอใครสักคนที่จะคอยปลอบโยนและเคียงข้างเขา

เพราะเธอเป็นผู้หญิงคนนั้นให้เขาไม่ได้อีกแล้ว...

องศานึกสมเพชตัวเองที่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะยอมรับความจริง ใจหนึ่งมันรู้ดีว่าเซลีนไม่มีวันหวนคืน แต่อีกใจก็ยังอยากทำทุกหนทางเพื่อกลับไปเป็นเหมือนเดิม... แต่หวังให้เมียรักกลับมามันคงมากเกินไป แค่โอกาสสักครั้งให้เขาได้แก้ตัวมันก็เกินพอ

“หมอเซล มีคนฝากนี่มาให้ค่ะ”

เซลีนที่เพิ่งล้างตัวเพราะเลอะอาเจียนคนไข้รับถุงกระดาษจากนางพยาบาลอย่างฉงนใจ เธอไม่ได้สั่งอะไรนี่นา พอเปิดดูเป็นผัดหมี่ร้านประจำที่ตอนคบกับองศาก็พากันแวะกินบ่อย ๆ จึงพอจะรู้ว่ามาจากใคร

จมปลักกับอดีตไม่พอ ยังหวังลม ๆ แล้ง ๆ อยู่ได้...

“เปิ้ล ๆ”

“ขา”

หมอเปิ้ลที่เดินผ่านหน้าทำท่าเบรกเอี๊ยด แล้วหันหน้ามองอาจารย์แพทย์คนสวย

“เอานี่ไปกินนะ แบ่งเพื่อนด้วย”

“หูย ขอบคุณค่าหมอเซล”

เซลีนส่งผัดหมี่ให้แล้วส่งยิ้มหวานให้กระทั่งลูกน้องสาวหมุนตัวเดินกลับไป รอยยิ้มกลับจางหายเหลือเพียงใบหน้าเย็นชา องศาที่แอบมองอยู่หลังเสาถึงกับเศร้า ซ้ำยิ่งมองในแววตาเธอแล้วเห็นแต่ความหงุดหงิดเขาก็ยิ่งปวดใจ

“แค่รับน้ำใจสักนิด มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ”

องศาตัดพ้อเศร้า ๆ น้อยใจอยู่ครามครันเมื่อคิดว่าเซลีนตั้งใจจะตัดเขาให้ขาดจริง ๆ

ด้านหญิงสาวยังทำงานต่อจนดึกแม้จะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว จนสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีหมอนิกม์ที่เข้ามาร่วมประชุมทีมด้วยถึงกับต้องบอกให้ไปพัก

“ไม่เป็นไรหมอนิกม์ ว่าต่อเลยนะ... เราควรสอดท่อสวนหลอดเลือดแล้วปล่อยลมบอลลูนแก้ไขหลอดเลือดโป่งพองเทียม มันปลอดภัยกว่าที่จะผ่าตัดเปิดช่องท้องให้เขา”

“แบบนี้หลอดเลือดเขาจะแตกเอาได้ ตอนที่เราปล่อยลมบอลลูนนะคะ” หมอหนิงท้วง ด้านหมอนิกม์กลับเห็นด้วยกับเซลีน

“แต่ผมเห็นด้วยกับหมอเซลนะ เพราะมันมีโอกาสมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เขาจะรอด”

“เราจะเสี่ยงกับตัวเลขนี้จริงเหรอครับ” หมอไบรท์ลูกทีมหมอนิกม์ถามขึ้น

เซลีนมองหน้าจอที่แสดงภาพเอ็มอาร์ไอหลอดเลือดโป่งพองเทียมของคนไข้แล้วสูดหายใจเข้าปอดลึก ตัวเลขมันต่ำกว่าที่ใครหลายคนจะยอมเสี่ยงจริง ๆ นั่นแหละ

“ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย... เขาจะตาย”

หลังการผ่าตัดสอดท่อผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเซลีนก็แทบจะหมดแรง เธอคิดถึงเตียงที่บ้านจนอยากหายตัวได้ โชคดีที่ธชาผ่านทางนี้พอดีเลยขอติดรถเขาทิ้งรถตัวเองไว้ที่โรงพยาบาล พอเดินออกจากตึกเพื่อนสนิทก็ขับเดินเข้ามารับ

“รอนานไหม”

“ไม่ เพิ่งมาถึงแล้วก็ไปซื้อน้ำเต้าหู้มาให้เนี่ย กินหน่อยนะ สีหน้าไม่ค่อยดีเลย”

“อือ น่าจะติดไข้จากคนไข้ที่อ้วกใส่เมื่อกลางวัน ขอบใจนะ”

เป็นเรื่องแย่ ๆ ที่หมออย่างพวกเธอสามารถพบเจอได้บ่อย ๆ

“โอ๊ย”

“เป็นไร” ธชาตกใจ จู่ ๆ เธอก็ร้องแล้วยกมือขยี้ตา

“แมลงเข้าตา โคตรแสบ”

ตอนนี้เซลีนลืมตาแทบไม่ได้ ธชาช่วยดูให้ แต่มุมนั้นในสายตาองศามันเหมือนกำลังกอดจูบกันมากกว่า กำปั้นหนักหน่วงจึงทุบพวงมาลัยเต็มแรง

ความโกรธและโมโหผสมปนเปกันอยู่ในใจจนเขาแทบบ้า นี่ถ้าเขาไม่จอดรถรอดูว่าเธอกลับบ้านปลอดภัยหรือไม่หลังจากทำงานจนดึกดื่นด้วยเมื่อก่อนเธอต้องกลับกับเขา องศาก็คงไม่ต้องมาเห็นภาพบาดตาบาดใจ

+ + +

เซลีนมั่นใจว่าติดไข้หวัดใหญ่ จึงกินยาลดไข้และนอนพักเพราะอาการยังไม่รุนแรงมาก พรุ่งนี้น่าจะดีขึ้น ซึ่งเธอฝากงานของวันพรุ่งนี้ให้หมอหนิงแล้วน่าจะไม่มีปัญหา แต่อาการปวดหัวกลับไม่ทุเลาลงแถมยังปวดเนื้อปวดตัวจนถึงกระดูก เมื่อครู่ชลันดาโทร. มาว่าหล่อนขอให้ธชาซึ่งใกล้บ้านเธอที่สุดมาพาไปโรงพยาบาล อย่างน้อยจะได้มีคนดูแล เธอก็รอเขาอย่างใจจดใจจ่อ

“มาแล้วเหรอชา”

เธอลืมตาแทบไม่ขึ้นแต่ได้ยินเสียงรถแล้วตอนนี้ก็เป็นเสียงเปิดประตู เกรงใจเพื่อนอยู่เหมือนกันแต่คุณศราที่กลับเข้าไปรับตำแหน่งก็ยังติดเคสผ่าตัด

คนที่บ้านท่านตอนนี้ก็เหลือแค่ผู้สูงวัยขับรถไม่เป็น ส่วนน้องสาวคนสนิทอย่างธารีก็ย้ายไปเป็นเรสซิเดนท์ที่โรงพยาบาลอื่นแล้วเนื่องจากขาดบุคลากรระดับอาจารย์แพทย์ถึงสองคน เซลีนกับหมอนิกม์เองก็รับลูกทีมเพิ่มไม่ไหวแล้ว

“เลิกกันไม่ทันไรก็นัดผัวใหม่มาเอาบนเตียงผัวเก่าแล้วเหรอ”

แต่น้ำเสียงห้วนจัดที่ได้ฟังหาใช่เสียงของเพื่อนรัก แต่เป็นองศา ไม่รู้ว่าเธอฝันไป หูฝาด หรือเพราะเขามาจริง ๆ

เคล้ง...

ขวดแก้วว่างเปล่าร่วงลงกับพื้นแล้วหมุนควงอยู่พักหนึ่ง นั่นทำให้เซลีนพยายามตั้งสติ ปรือตามองเงาตะคุ่มที่ยืนข้างเตียงชัด ๆ ซึ่งชัดเจนแล้วว่าใช่เขา

“องศา”

น้ำเสียงแหบแห้งรำพันชื่อเขา ค่อย ๆ ดันตัวลุกขึ้นเพื่อรับมือกับคนที่เธอรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าไม่ปกติ

“ที่พูดน่ะ มันหมายความว่าไง”

“ก็พูดอย่างที่ได้ยินนั่นแหละ เธอกับไอ้ธชา ถึงไหนกันแล้วล่ะ?”

แววตาหม่นเศร้าของเขาจ้องหน้าอดีตภรรยาอย่างตัดพ้อ ยิ่งไปกว่านั้นดูคล้ายเขากำลังโกรธกัน

“อ้อ”

เธอยิ้มเยาะ เขาคงรู้สึกแย่ไม่ต่างกับเธอตอนนั้นเท่าไหร่ สาแก่ใจเธอเหลือเกิน

“อยากให้บรรยายขนาดไหนล่ะ เรตนิยายรักหรืออีโรติก”

“...” องศาได้แต่กำหมัดแน่น ดูเธอจะภูมิใจนำเสนอไอ้นั่นเสียจริงนะ

“แต่นายไม่ต้องห่วงหรอกนะ เตียงนี้ฉันซื้อใหม่ทั้งหลัง เพราะงั้นกลิ่นน่าขยะแขยงของนายกับอีแอ้มเลยไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว แต่ถึงมันจะเคยเป็นเตียงของนายจริง ๆ ก็ไม่เห็นจะต้องแคร์ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ฉันจะพาผู้ชายมาขย่มสักกี่คนมันก็ย่อมได้”

เขากำหมัดแน่น ความขุ่นเคืองเป็นดั่งไฟร้อนนาบหัวใจ เตียงหลังนี้มันเคยเป็นที่ของเขา ต่อให้อะไรจะเปลี่ยน แต่เซลีนเปลี่ยนความจริงเรื่องนี้ไม่ได้หรอก

มันคงดีถ้าขายบ้านหลังนี้ไปซะ เขาจะได้ไม่ต้องเจ็บกับความคิดที่ว่าเมียรักจะพาใครมานอนทับรอยตัวเองบ้าง

“อย่ามัวแต่พูดมากเลย มีอะไรก็ว่ามา”

เธอดึงหมอนมาพิงเพราะเพลียจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้าเขามีธุระก็รีบ ๆ พูดมาเลยดีกว่า

“ฉันลืมของ”

สรรพนาม ‘ฉัน’ ที่เรียกแทนกันแสดงถึงความรู้สึกบางอย่างที่เปลี่ยนกลับไปเป็นเหมือนเดิม ดีแล้ว... เขาจะได้ก้าวต่อไปเสียที

“จะเอาอะไรก็เอา แล้วรีบกลับไปซะ”

เอาอะไรก็เอางั้นเหรอ...

มุมปากหยักยกยิ้มแสยะ ก่อนจะเดินโซซัดโซเซเข้าไปใกล้เตียง ท่าทางคุกคามของเขาทำให้เซลีนหวาดกลัวรีบตะกายหนี

แต่อาการไม่สู้ดีทำให้ขยับตัวเชื่องช้าเพราะปวดร้าวไปถึงกระดูก ร่างอ่อนแรงจึงถูกองศาที่กระโจนขึ้นมาบนเตียงกระชากเข้าไปกอด ใกล้กันขนาดนี้ต่อให้เธอไม่สบายแต่ก็ยังได้กลิ่นเหล้าจากลมหายใจเขาได้

เขาดื่มมาหนักแค่ไหนกันนะ...

“อง อย่ามาทำแบบนี้กับฉันนะ”

หญิงสาวสะบัดดิ้นสุดแรง ทั้งไม่สบายตัวจนเหมือนร่างกายจะแตกเสียให้ได้ กระนั้นองศาก็ยังรัดแน่นไม่ยอมปล่อย

“ให้ฉันเอาอะไรก็ได้ไม่ใช่เหรอ นี่ไง ฉันอยากเอาเมีย”

“ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนี้”

เธอเอ่ยน้ำตาคลอ กลัวเขาจนตัวสั่น ทว่าองศาดูไร้สติเกินกว่าจะคุยกันเข้าใจ

องศาฉกใบหน้าเข้ามาบดจูบกลีบปากร้อนผ่าวจากพิษไข้ ยิ่งเธอดิ้นรนต่อต้านเท่าไหร่ จุมพิตลงทัณฑ์ก็บดเคล้ารุนแรงขึ้นเท่านั้น

ร่างอ่อนแรงถูกเขากดลงกับที่นอน สองแขนถูกรวบเอาแล้วตรึงไว้เหนือศีรษะ หัวใจเต้นแรงเพราะหวาดหวั่นพลางจ้องมองใบหน้าดุดันของเขาผ่านม่านน้ำตา

“ถ้าทำแบบนี้ นายจะไม่มีวันได้เป็นแม้แต่ใครสักคนในชีวิตฉัน”

ดวงตาปรือ ๆ ขององศาจ้องหน้าเธอคล้ายกำลังเหม่อลอย ต่อให้เธอพูดสิ่งใดมันก็อยู่นอกเหนือความสนใจเว้นแต่ความงดงามตรงหน้า

นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้พิศมองใบหน้านวลเนียนของเมียรัก นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้สูดดมกลิ่นกายหอมเย้ายวน นานเท่าไหร่แล้วที่เขาต้องทนคิดถึงอุ่นไอจากเธอ

“เค้าคิดถึงตัวเอง”

“อง หยุดนะ ฮึก...”

เซลีนหันหน้าหลบ จุมพิตร้อนแรงจึงสัมผัสกับพวงแก้มเห่อร้อนแทน

“คิดถึงจนแทบบ้า”

เรียวปากร้อนรุกรานพวงแก้มสวยซีดเซียว เรื่อยลงไปจนถึงซอกคอระอุ เธอส่ายหน้าต่อต้านทว่าจังหวะหนึ่งกลับกลายเป็นการเปิดทางให้เขาได้ครอบครองกลีบปากสวย

จุมพิตกักขฬะบดเคล้าและดูดดึงคล้ายจะสูบเอาวิญญาณออกจากร่างกายเธอ จนเมื่อเธอรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจนั่นแหละองศาถึงได้ผละออก

“เค้ารักตัวเองมากนะเซล ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน”

ปากบอกรักแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ใบหน้าหล่อเหลาฉกลงมาซุกไซ้ซอกคอเธออย่างคนกระหาย

เซลีนน้ำตาไหลพรากเพราะทั้งกลัวและเสียใจ ยิ่งดิ้นรนต่อต้านเขามากเท่าไหร่ แขนทั้งสองข้างที่ถูกเขาตรึงไว้มันก็เจ็บเหมือนจะหลุดออกจากร่างเสียให้ได้มากเท่านั้น

เธอรู้ดีคงหนีจากองศาไม่พ้น จึงสูดจมูกกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลพร้อมกับที่แรงต่อต้านมลายหายไป

องศาถึงกับชะงักงันแล้วเงยหน้ามองคนใต้ร่าง สะอึกกับดวงตาที่จ้องลึกเข้ามาในแววตาและคำพูดที่เธอเอ่ยชัดทุกคำ

“จะทำอะไรก็ทำ แต่จำเอาไว้ว่าฉันจะเกลียดนายไปจนวันตาย”

เขาปล่อยแขนเธอเป็นอิสระ พิศมองใบหน้าอ่อนหวานอีกครา ความอ่อนโยนเข้าเกาะกุมหัวใจช้า ๆ ขณะที่ใบหน้าโน้มลงไปหมายจะครอบครองเรียวปากแห้งกรัง

เซลีนเบือนหน้าหลบจุมพิตนั้นหากก็ไม่ได้ขัดขืน เธอปล่อยให้เขาจูบไซ้ซอกคอ เรื่อยลงไปยังเนินอกขาวเนียนนุ่ม มือที่นุ่มไม่แพ้กันของเขาสอดเข้ามาใต้เสื้อ กอบกุมทรวงอกหนั่นแน่นมันมือ

แล้วเสื้อนอนตัวโปรดก็ถูกเขาฉีกจนขาดออกจากกัน เปิดเผยปทุมถันกลมกลึงต่อสายตาโลมเลียของเขา องศาไม่ลังเลที่จะจัดการปราการด้านล่าง เขากระชากขอบกางเกงทีเดียวทั้งตัวนอกตัวในก่อนแยกเรียวขาที่เขาหลงใหลออกจากกัน

องศาครางเสียงต่ำในลำคอเมื่อพบเจอดอกไม้ป่าสีสวยน่าสัมผัส เขาเห็นเรือนร่างของเซลีนมานับครั้งไม่ถ้วนก็จริง แต่ไม่มีเลยที่เขาจำภาพนี้ได้ เช่นเดียวกับความรู้สึกที่ได้สอดใส่ในกายเธอ

สิ่งที่เขากำลังทำนี้มันแปลกใหม่เหลือเกินในความรู้สึก...

ด้านเซลีนกระถดตัวหนี สองมือกำหมัดแน่น ทั้งอายและเจ็บใจที่ต้องมาอยู่ในสภาพนี้ ทว่าไอ้ตัวดีกลับกระชับต้นขาเธอแล้วดึงเข้าไปใกล้พลางใช้สะโพก แผ่นอกกว้างโน้มลงมาทาบทับหน้าอกเธอ มือข้างหนึ่งสอดเข้ามาประคองศีรษะเล็กให้สบตากัน

ทว่าเซลีนดื้อรั้นเกินว่าจะโอนอ่อน หญิงสาวหลับตาลงเสียเพราะไม่อยากเห็นหน้าเขา ได้ยินเพียงเสียงกระซิบขาดห้วงที่ข้างหูว่า

“ที่รักยังหวานไม่เคยเปลี่ยนเลย”

องศายกสะโพกขึ้นเพื่อปลดเชือกกางเกง ดึงขอบยางลงได้ครึ่งสะโพก มือข้างนั้นก็จับท่อนเนื้อที่ดีดผึงเข้าจรดกับปากทางรัก หัวใจเซลีนเต้นแรง เกร็งไปหมดทั้งตัวขณะที่หลายความรู้สึกทั้งเกลียด ทั้งกลัว ทั้งรัก และเจ็บแค้น กำลังตีรันฟันแทงกันอยู่ในใจ กอปรกับร่างกายไม่สู้ดีอยู่แล้วก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลมเสียให้ได้

“เค้ารักตัวเองนะ”

เขากระซิบอีกหนคล้ายปลอบประโลม ในตอนที่พยายามดุนดันความเป็นชายแทรกผ่านม่านบาง ๆ เข้ามา เซลีนกัดฟันแน่นข่มความเจ็บที่เสียดแทรกแต่หน้าสวยกลับเหยเกเพราะมันยากจะทนไหว ท่อนเนื้อแข็งแกร่งขององศาไม่สามารถรุกล้ำเข้าไปง่ายดาย พลันสะโพกกลมกลึงก็ขยับหนีอีกครา

“พอแล้ว ฉันเปลี่ยนใจแล้ว...”

เธอลืมตามองเขา ลมหายใจสะอื้นแรง ในใจนั้นกลัวเหลือเกิน... เพราะองศาในสภาพปกติเธอก็คิดว่าตัวเองรับไม่ไหว ในสภาพเมามายเช่นนี้ไม่อยากคิดเลยว่าจะเป็นเช่นไร

แต่ชายหนุ่มไม่ได้เอะใจ ความต้องการของเขายังพลุ่งพล่าน หากไม่ได้สานต่อ คงได้บ้าตายเข้าจริง ๆ

องศาฉกใบหน้าลงไปบดเคล้าเรียวปากบาง ดูดกลืนทุกคำพูดของเธอเข้าไปในลำคอ พร้อมยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยแล้วจับความเป็นชายที่กำลังเหยียดขยายแทรกผ่านช่องรักคับแคบ ต่อให้มันตีบคับและรัดรึงแค่ไหนเขาก็จะต้องผ่านเข้าไปให้ได้

เซลีนอ่อนแรงเต็มทีแถมยังถูกจุมพิตร้อนแรงของเขาเล่นงานอยู่แบบนี้เธอคงไม่มีทางหนีพ้น ความสาวที่รักษาไว้สามสิบสองปีต้องถูกทำลายเพราะองศาจริง ๆ งั้นหรือ เพียงแค่คิดน้ำตาของเธอไหลเป็นทาง

“อื้อ!”

เจ็บ...

เจ็บเหลือเกิน

แท่งเอ็นใหญ่โตขององศาชำแรกผ่านม่านพรหมจรรย์แสนบางเข้ามาแช่ตัวอยู่ภายใน สร้างความรวดร้าวเพิ่มพูนทั่วสรรค์พางกาย ความฉงนกระแทกอัดเข้าใส่จิตใจคนเมา เขาคลายจูบแล้วมองดวงหน้าแดงเรื่อที่ส่ายไปมาอยู่ใต้ร่างอย่างสับสน

เซลีนยังบริสุทธิ์อยู่สินะ... ถึงจะเมาแต่ก็แยกแยะได้

เหมือนได้ย้อนกลับไปช่วงวัยรุ่นอีกครั้งเลย แฟนคนที่สองของเขาก็ให้ความรู้สักไม่ต่างกัน

และนี่คือคำตอบที่เขาต้องการจากเธอ!

องศารู้ดีว่าต่อให้เมาเขาก็ใช่จะจำไม่ได้ว่านอนกับใคร แต่ทุกครั้งที่เซลีนทำเหมือนผ่านศึกรักมาด้วยกัน เขากลับจำอะไรไม่ได้ จะมีก็แต่ความรู้สึกถึง ‘เซ็กซ์’ ที่ร่างกายรู้สึกได้

“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฮือ ๆๆ”

มือบางไร้เรี่ยวแรงทุบแผงอกเขาหลายที แต่เขาไม่รู้สึกเจ็บเพราะหัวใจคงชาไปเสียแล้ว

“เราไม่เคยมีอะไรกันเลยใช่ไหม แต่เธอโกหกฉันมาตลอด”

ถามออกไปด้วยใจที่เจ็บร้าว หญิงสาวเบือนหน้าหนีแล้วปล่อยเสียงร้องไห้สะเทือนใจ หากแต่เขาสับสนเกินกว่าจะทนไหว องศาจับปลายคางงามมนให้ใบหน้าซีดเซียวหันมาสบตา

“ตอบมาสิ!”

“ใช่”

ชัดเจนแล้ว เธอกับเขาไม่เคยนอนด้วยกันเลย แล้วความรู้สึกพวกนั้นมันเกิดจากใคร เซลีนทำได้อย่างไร ทั้งที่เขารักเธอจนแทบจะเป็นบ้า แต่เธอกลับทำเหมือนเขาเป็นตัวตลก ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนใจร้ายเท่าเธอมาก่อนเลย

“เธอทำอะไรกับฉันกันแน่เซล”

“หึ”

เธอหัวเราะหยัน สมเพชเขาแต่ก็น้อยกว่าสมเพชตัวเอง วางแผนเล่นงานเขาแทบตายแต่สุดท้ายก็มาโดนเขาเอาเปรียบอยู่แบบนี้

“แค่เอากะหรี่แบบที่นายชอบมานอนกับนายไง”

“...”

เป็นแบบนี้นี่เอง ที่จำอะไรไม่ได้ก็คงมาจากยากล่อมประสาทหรือยานอนหลับอย่างไหนสักตัวที่เธอใช้มัน แต่มันคงสาสมกันแล้วสินะกับสิ่งที่เขาทำ ในสายตาเซลีนเขามันก็แค่ไอ้ชั่วสารเลวที่ไม่คู่ควรกับสิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอ

“คนอย่างนายไม่คู่ควรกับสิ่งที่ฉันหวงแหนแม้แต่นิดเดียว”

เซลีนตอกย้ำให้มันฝังลึกลงไปในจิตใจ องศาหลับตาพริ้มข่มกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ แต่น้ำตากลับหยดแหมะกับหน้าแก้มของเธอ เพราะเขารู้ดีว่าตัวเองไม่คู่ควรและไม่ควรแตะต้องด้วยซ้ำ

ทว่าเรื่องราวมันเลยเถิดมาขนาดนี้แล้ว มันจะเป็นไปได้ไหมที่ไอ้สารเลวคนนี้จะกอดความสุขเทียมฝันอย่างนี้เอาไว้ ให้เธอกับเขาปล่อยวางความเจ็บแค้นเสียใจลงไปชั่วคราวแล้วเหลือเพียงสองเราที่รักกันเพื่อจับจูงกันไปให้ถึงฝั่งฝัน

เขาขอแค่นั้นจริง ๆ

คำขอร้องของชายชั่วส่งผ่านจุมพิตอ่อนหวาน ความอ่อนโยนที่เขามอบให้ช่วยปลอบประโลมใจแสนช้ำได้อย่างน่าประหลาดใจ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงโอนอ่อนตามอารมณ์เบื้องลึกอย่างช้า ๆ ในขณะที่เขาเริ่มขยับกายเนิบนาบเพื่อเธอ

“ไม่ต้องเกร็งนะ”

คนตัวโตคลายจูบแล้วกระซิบข้างหู สอดปลายขาใต้สะโพกกลมกลึงแล้วรั้งเอวบ้างให้แอ่นหยัดเข้าหาความเป็นชายที่กำลังโจนจ้วงอย่างลึกล้ำสายตาจับจ้องจุดเชื่อมต่อระหว่างกันที่ตอนนี้มีเมือกเลือดเคลือบฝักรักของเขาอยู่ก็ถึงกับต้องกัดริมฝีปากแน่น ก่อนไล่ขึ้นไปมองโหนกเนื้ออวบอูมกำลังพอดีอันมีกลุ่มขนเส้นบางปกคลุมอยู่เล็กน้อย เรื่อยไปจนถึงหน้าท้องแบนราบและแอ่งเว้ากลางลำตัว หน้าอกอวบหยุ่นที่กระเพื่อมตามแรงขยับของเขา ไหล่สวยและต้นแขนได้รูปไปจนถึงสองมืองามที่จับผ้าปูที่นอนเอาไว้

เขาฝันถึงภาพแสนงามนี้มาตลอด แม่นางฟ้าปีกบางของเขาช่างงดงามราวกับหลุดออกมาจากในห้วงความฝัน

เซลีนซบใบหน้ากับหมอน ภาวนาให้ศึกรักครั้งนี้รีบผ่านพ้นไปเสียทีก่อนที่เธอจะสิ้นสติสมประดี

หากก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความจุกเสียดตรงนั้นกำลังแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดี เพราะนิ้วหัวแม่มือเขาที่เคล้นคลึงจุดอ่อนไหวที่สุดในกายกอปรกับการเคลื่อนไหวอ้อยอิ่งแผ่วเบาและสัมผัสนุ่มนวลคอยทะนุถนอมทุกส่วนสัดที่เขาสัมผัส ทั้งหมดก็เพื่อทำให้เธอถึงฝั่งฝันและเคลิบเคลิ้มกับความสุขสมตามธรรมชาติของร่างกาย

พิษไข้กับความเหนื่อยกายทำให้เซลีนผล็อยหลับไปโดยไม่รู้เลยว่าใครบางคนที่ตั้งใจมาหาเธอเพราะความห่วงใยเห็นภาพบาดตาบาดใจนั้นแล้วถึงกับหมดหวัง

องศาโน้มตัวลงช้อนร่างนุ่มนิ่มขึ้นมาโอบกอด ซึมซับไออุ่นจากเธออย่างหลงไหล ขณะที่มือซ้ายเคล้นคลึงบั้นท้ายงามงอนและออกแรงดันให้ขยับตามที่ใจปรารถนา ส่งเสียงคำรามทุ้มต่ำแล้วจับยึดเซลีนเอาไว้เมื่อเวลานั้นมาถึง สายธารรักทุกหยาดหยดจึงหลั่งไหลเข้าสู่โพรงน้ำผึ้งแฉะชื้นจนหมดสิ้น

ริมฝีปากหยักกดจูบไหล่สวยแผ่วเบา แล้วระบายยิ้มอ่อนหวาน ตอนนี้เซลีนเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ เช่นเดียวกับเตียงหลังนี้ หรือแม้แต่ห้องนอนห้องนี้ที่มันเป็นของเขามาโดยตลอดไม่เคยมีใครมาแทนที่ได้เลย

หากอีกใจก็อดรู้สึกผิดไม่ได้เพราะมันไม่ต่างจากใช้กำลังบังคับจิตใจ ต่อให้จะเมาจนขาดสติก็ไม่ควรได้รับการให้อภัย ไม่รู้เซลีนตื่นมาเธอจะว่าอย่างไร ในใจเต็มไปด้วยความสับสน ขณะเดียวกันก็อัดแน่นทั้งความรัก ความรู้สึกผิด ดีใจ และเสียใจปนกันไป

“ขอโทษนะเซล”

มือใหญ่ก็ประคองมือซ้ายของเซลีนขึ้นมาแล้วจูบแหวนแต่งงานเย็นเฉียบเบา ๆ

เขาแค่ตั้งใจมาเอาแหวนคืน เพราะภาพที่เห็นเธอกอดจูบกับธชามันทำให้เขาหมดหวัง ไม่คิดว่าสถานการณ์จะเลยเถิด

เธอจะโกรธจะเกลียดเขาก็ได้ แต่จะให้ปล่อยเธอไปทั้งที่รู้ว่าเธอไม่เคยเป็นของใครนอกจากเขา เห็นทีองศาคงจะทำไม่ได้อีกแล้ว...

เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจเธอ ต่อให้เดินทางตรงไม่ได้ก็จะอ้อมไป เส้นทางจะขรุขระแค่ไหนก็จะไม่ถอดใจเพราะรู้ว่าปลายทางคือหัวใจของเธอ

แต่ถ้าในที่สุดเขาจะไม่สมหวัง... ก็อย่าหวังว่าไอ้ผู้ชายหน้าไหนจะได้เธอไปครอบครอง

เซลีนสะดุ้งตื่นในอ้อมกอดชื้นเหงื่อ อาการป่วยดูเหมือนจะแย่ลงแต่ตกใจมากที่ตัวเองเผลอหลับไปก่อนทุกอย่างจะจบลงด้วยซ้ำ มือเรียวค่อย ๆ แตะดอกไม้งามกลางหว่างขา สำรวจดูว่าองศาทิ้งร่องรอยอัปยศไว้หรือไม่ แล้วหัวใจเพพังก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะเขาทำอย่างนั้นจริง

ไอ้สารเลวเอ๊ย!

“ออกไปนะ ไอ้อง ไอ้หน้าตัวเมีย!”

เธอดิ้นขยุกขยิก ด้วยเรี่ยวแรงตอนนี้มันไม่พอจะทำให้หลุดจากวงแขน แต่เพียงพอจะทำให้คนตัวโตรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้

“ที่รัก”

“ที่รักบ้านแกสิ”

“ปากร้ายฉิบหาย... นี่เมียหรือหมากันแน่นะ”

“หมานั่นมันแกต่างหาก”

“แต่ไม่เป็นไร ปากร้ายแต่ยังไงผัวก็รักนะครับ”

เขาทำยียวนพลางกระชับร่างสวยเข้ามาแนบอก หวังว่ามันจะช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่เขาทำเรื่องแบบนั้นลงไป

“ฉันเกลียดแก”

“ครับ ๆ รู้ครับ”

“ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้แก”

เธอหมายมาดด้วยใจเคืองแค้นทว่าน้ำเสียงกลับสั่นเครือขาดห้วงจนเขาอดก้มมองดวงหน้าเผือดสีของคนในอ้อมกอดไม่ได้ พอเจอแววตาชิงชังดุกร้าวของเธอแล้วตกใจนิดหน่อย

“แกปล่อยข้างในใช่ไหม”

องศาหลับตานึก ก่อนพยักหน้ายอมรับอย่างเสียไม่ได้ ตอนนั้นเขาไม่ทันจริง ๆ และพลันเกิดความรู้สึกผิดเกาะกุมในหัวใจอีกครา

“เค้าขอโทษ”

กระชับร่างเล็กแน่นขึ้นแล้วลูบศีรษะเธอเบา ๆ

“เค้าจะรับผิดชอบเอง จะเป็นผัวที่ดีของที่รักแล้วก็เป็นพ่อที่ดีขององศาน้อย”

“ฝันไปเถอะ ฮึก... ฉันไม่ปล่อยให้เด็กมันเกิดมาหรอก”

“ก็เข้าใจได้” เขายักไหล่

“หมายความว่าไง ที่ว่าเข้าใจได้”

เธอเป็นนางร้ายในสายตาทุกคนไปแล้วสินะ ทั้งที่เธอโดนกระทำเสียขนาดนี้

“ก็หมายความว่าเค้าเข้าใจที่รักยังไงล่ะ แต่ก็นะ... สำหรับคนที่มดลูกแข็งแรงแถมยังไม่เคยกินยาคุมเลย ไหนจะเพิ่งจะเสียตัวครั้งแรกแบบนี้ เราต่างก็รู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร”

ปากเก่งไม่เข้าใจเรื่องอีกแล้วไอ้อง นอกจากไม่ช่วยอะไรแล้วยังทำให้มันแย่ลงอีก แบบนี้แทนที่จะได้หัวใจสาวคงได้กินส้นเท้าแทน

“นายภูมิใจนักเหรอองศา”

เขากลืนน้ำลายลงคอ น้ำเสียงขาดห้วงของเมียรักราวกับบ่วงหนามรัดรึงดวงใจ

“นายเอาเปรียบฉันที่อยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง ฮือ ๆๆ”

“เค้ารู้ ในสายตาที่รักเค้ามันเลวร้ายแค่ไหน แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าเค้าเสียใจกับเรื่องนี้จริง ๆ”

เซลีนไม่ได้พูดอะไรต่อ และเสียงสะอื้นของเธอก็เบาลงจนเงียบไปในที่สุด น่าแปลกเหลือเกินที่เนื้อตัวเธอร้อนเหมือนไฟ องศาเริ่มเอะใจจึงรั้งเธอออกจากวงแขน หญิงสาวคออ่อนเอียงพับหมดสติไปแล้ว

พอสร่างเมาสมองของเขาก็กลับมาประมวลผลได้ดีอีกครั้ง ไออุ่นที่ได้รับจากร่างกายเธอหาใช่เรื่องนามธรรมที่มีแต่หัวใจเท่านั้นที่รู้สึกได้ แต่มันเป็นเพราะเซลีนไม่สบาย แถมตัวร้อนจี๋เลยด้วย...

องศาเช็ดตัวให้หลายครั้งแต่อุณหภูมิก็ไม่ลดลงเสียที เลยตัดสินใจพาเธอส่งโรงพยาบาลจะได้ทำการตรวจอย่างละเอียด โดยให้เธอนอนตรงเบาะหลังจะได้สบายตัว

หากระหว่างทางเขาแวะเติมน้ำมันก่อนซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นพอดี องศาจะพาเธอไปที่ไหนกัน เธอไม่ไปกับเขาเด็ดขาด

เซลีนเปิดประตูแล้วเดินสะโหลสะเหลออกไปจากรถ ด้านองศากำลังสื่อสารกับเด็กปั๊มไม่ทันได้มอง รู้ตัวอีกทีก็เห็นเมียรักเดินห่างออกไปแล้ว เขาจึงได้รีบวิ่งตาม

“เซล จะไปไหน”

ไปไหนก็ได้ เขาอย่าตามมาก็พอ เธอไม่ได้พูดออกไปเพราะเพลียเหลือเกิน ทว่าจู่ ๆ รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหา หญิงสาวตกใจมากแต่ทั้งโลกก็ดับมืดลงพร้อมกับความรู้เนื้อรู้ตัวของเธอ

+ + +

เซลีนรู้ตัวอีกทีเธอก็นอนในห้องพักฟื้น มอเตอร์ไซค์ชนเธอแต่ไม่แรงมากจึงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทว่าไข้ที่ขึ้นสูงนั่นแหละที่ต้องเฝ้าระวัง พยาบาลและแพทย์จึงผลัดเปลี่ยนกันมาดูอาการ รวมถึงพ่อเธอ และเพื่อน ๆ แต่บางครั้งเธอก็เห็นองศาอยู่ในห้องกับเธอเพียงลำพัง

“เป็นยังไงบ้างที่รัก”

องศาใช้มืออังหน้าผากเมียรัก ตัวเธอยังร้อนเหมือนไฟอยู่เลย แต่คงจะมีแรงแล้วถึงได้มองเขาด้วยแววตาเกลียดชังอย่างนั้น เล่นเอาหัวใจเขาปวดร้าวคล้ายโดนคมมีดกรีดเฉือนเป็นริ้ว ๆ

‘ถ้าทำแบบนี้ นายจะไม่ได้เป็นแม้แต่ใครสักคนในชีวิตของฉัน’

‘จำเอาไว้ว่าฉันจะเกลียดนายไปจนวันตาย’

คำพูดเหล่านั้นมันยังคงวนเวียนสร้างแผลลึกอยู่ในใจและตอกย้ำว่าเขาเลวทรามกับเธอมากแค่ไหน ด้านเซลีนถอนหายใจเอือมระอา อยากสบถดัง ๆ ว่า แม่ง! แต่เสียดายแรง เลยคิดว่าถ้าตื่นแล้วต้องเจอหน้ามัน เธอขอหลับเอาแรงก่อนดีกว่า

“ถ้างั้นพักผ่อนนะ แล้วจะมาใหม่”

องศาโน้มตัวลงไปกระซิบข้างแก้มที่ตอนนี้เริ่มมีสีเลือดฝาด

“ฝันดีนะ”

พอเขาออกไปแล้วเซลีนก็ผล็อยหลับไปอีก รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พยาบาลเข้ามาปลุก มองรอบกายไม่เห็นองศาแล้วก็โล่งใจ ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเขาจริง ๆ

“คุณหมอเซลีนคะ ตื่นมาทานยาก่อนค่ะ”

หญิงสาวรับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเม็ดแรกมาทาน ซึ่งเธอสั่งกับพยาบาลไว้ตอนได้สติครั้งแรกให้หามาให้ ก่อนจะหลับไปอีกเพราะพิษไข้ ก่อนจะได้ทานอีกครั้งหลังผ่านไปสิบสองชั่วโมง ถึงจะโล่งใจไปเปราะหนึ่งแล้ว แต่ยังมีเรื่องให้กลัวอยู่นั่นแหละ

“คุณช่อมาแล้วค่ะ”

พยาบาลที่เธอสั่งไว้ว่าให้ไปนำทาง ‘ช่อ’ สาวขายบริการที่เธอใช้งานอยู่บ่อย ๆ มาที่นี่เปิดประตูให้หล่อนเข้ามา เซลีนมีสีหน้าเคร่งเครียดจนช่อทำตัวไม่ถูก

“เอาผลตรวจมาด้วยหรือเปล่า”

“นี่ค่ะ”

หล่อนส่งผลตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เพิ่งไปตรวจมาแบบละเอียดให้เซลีนดู

“ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม”

ศัลยแพทย์สาวไล่ดูผลตรวจทุกรายการประกอบคำพูดของช่อก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากตอนแรกที่เธอตัดสินใจจ้างหล่อน เป็นเธอที่คิดมากไปเอง

“อย่างที่คุณหมอรู้ ฉันไม่ได้รับแค่งานแบบนี้อย่างเดียว ฉันถ่ายหนังผู้ใหญ่ด้วย เพราะงั้นฉันตรวจโรคทุกสามเดือนอยู่แล้ว และทุกครั้งที่ฉันนอนกับสามีคุณหมอฉันก็ใช้ถุงยางตลอด อันนี้คุณหมอก็รู้ ฉันกล้ารับรองเลยว่าถ้าเขายุ่งกับฉันแค่คนเดียวเขาก็ปลอดภัยค่ะ”

นั่นเป็นสาเหตุที่เธอเลือกหล่อนให้ทำงานนี้ แต่องศายุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกหรือเปล่า นึกดูแล้วก็ไม่มี... นับตั้งแต่ที่ตกลงว่าจะอยู่ด้วยกันสามเดือน เขาก็ตัวติดเธอตลอดเวลา

เว้นเสียแต่นังแอ้ม!

แต่เธอไม่มีวันรู้ได้เลยว่าแอ้มมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือเปล่า แล้วถ้ามีมันจะร้ายแรงแค่ไหน องศาป้องกันหรือไม่ตอนนอนกับหล่อน แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่ได้ป้องกันตอนนอนกับเธอ

ในสมองของเซลีนตอนนี้มีแต่เสียงซ้ำเติม นี่แหละนะเวรกรรม นี่แหละคือการให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว

แต่เวรกรรมบ้าบอคอแตกอะไร เธอเป็นฝ่ายถูกองศากระทำก่อนนะ!

กระนั้นก็ยังวนเวียนคิดไม่หยุด กลายเป็นว่าเธอต่อสู้กับความคิดตัวเองจนก่อเกิดเป็นความเครียด ทำให้อาการไมเกรนที่หายไปนานแล้วกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง จนต้องขอยาชนิดแรงที่สุดกันเลยทีเดียว

ภาพที่ธชาบังเอิญเห็นในคืนนั้นทำให้เขาหักโหมทำงานกว่าเดิมเพื่อจะได้ลืมความเศร้า และคิดจะหลบหน้าเซลีนไปสักพัก แต่เมื่อรู้ว่าเพื่อนที่เขาแอบรักเข้าโรงพยาบาลหลังจากคืนนั้น ชายหนุ่มก็ทนอยู่เฉยไม่ไหว อยากรู้เหลือเกินไอ้สารเลวนั่นทำอะไรเธอถึงได้เป็นแบบนี้ แต่ดันบังเอิญเจอองศาที่หน้าทางเชื่อมไปยังห้องพักฟื้นของเธอ

“สวัสดีครับหมอธชา” องศาเป็นฝ่ายทักก่อน แต่ธชากลับจ้องหน้าเขาราวจะกินเลือดกินเนื้อ “มีอะไรกับผมเหรอครับ”

“เปล่าครับ”

ธชากลบเกลื่อนความเกลียดชังในตาด้วยรอยยิ้มที่ไม่จริงใจเลยสักนิดแล้วถามต่อ

“หมอองก็มาเยี่ยมเซลเหมือนกันเหรอครับ”

“ใช่ครับ”

องศามองเอกสารที่ถือมาด้วย รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนมุมปากยามนึกถึงแม่นางฟ้าปีกบาง

“พอดีผมมีเรื่องต้องคุยกันน่ะครับ”

“เหรอ”

ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่น้ำเสียงและท่าทางของธชากำลังเยาะหยันเขาอยู่

“ไม่ใช่ว่าเซลตัดคุณออกไปจากชีวิตเธอแล้วเหรอครับ ทำแบบนี้ก็เท่ากับมาตามตอแยถูกไหมครับ”

ว่าแล้วเชียว... อุตส่าห์มองธชาในแง่ดีแล้วเพราะรู้ว่าเซลีนไม่เคยปล่อยตัวปล่อยใจให้อีกฝ่ายแตะต้อง แต่นี่จะมาก่อสงครามประสาทกันตรงนี้จริง ๆ เหรอ

“อันที่จริงเราผูกพันกันมาก มันเลยยากที่จะตัดกันออกจากชีวิตน่ะครับ”

“จะผูกพันแค่ไหนแต่ของที่เขาไม่เอาแล้ว มันก็มีค่าแค่ของเก่าใช่ไหมล่ะครับ”

ธชาแสยะยิ้มหยันชัดเจน ไม่อาจเก็บซ่อนความเกลียดชังเอาไว้ได้อีกแล้ว แต่องศาพยายามข่มอารมณ์เอาไว้ถึงแม้อยากกระแทกกลางแสกหน้าธชาด้วยฝ่าเท้าก็ตาม ซึ่งอีกฝ่ายก็ยังพล่ามไม่หยุด

“ยิ่งวิ่งตามเขาตะลอน ๆ มันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกครับ มีแต่จะน่าสมเพชยิ่งกว่าเดิม เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหมครับ”

“เข้าใจแจ่มแจ้งเลยล่ะครับ”

องศาจ้องธชาตอบอย่างไม่ยอมกัน ราวกับจะสาดซัดอีกฝ่ายด้วยความหมายเดียวกับที่ถูกเหน็บแนม หากธชากลับคิดว่าตัวเองมีชัย

“แค่เซลกลับไปนอนกับคุณแค่ครั้งเดียว ไม่ได้แปลว่าเซลจะให้โอกาสคุณนะ เซลก็แค่สงสารหมาจรจัดก็เท่านั้นแหละครับ เพราะทุกครั้งที่เซลนอนกับผม เธอมักจะบอกเสมอว่าเธอสงสารคุณ เธออยากให้ทานคุณน่ะครับ”

พอถึงตรงนี้องศาก็หรี่ตามองหมาหวงก้างที่ไม่รู้ว่าเนื้อปลาแสนอร่อยโดนหมาตัวอื่นกินไปแล้ว เหลือแต่ก้างที่แม้ตาปลายลิ้นมันก็ไม่ได้แตะด้วยซ้ำ ซึ่งที่ธชาพูดมานอกจากทำให้ตัวเองดูแย่แล้ว เซลีนยังเสียหายด้วยต่างหาก และทำให้เขามั่นใจแล้วว่าเสียงรถที่ได้ยินคืนที่เขากลับไปหาเซลีนเป็นรถธชานี่เอง

คงเห็นภาพนั้นด้วยสินะ...

“ฉะนั้นหมอองควรเลิกยุ่งกับผู้หญิงของผมนะครับ เพราะใช่ว่าผมจะอดทนกับคนดื้อด้านแบบคุณได้ตลอดไป”

ให้ตาย!

เขาชักทนให้มันอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของเซลีนอีกไม่ไหว คันไม้คันมืออยากจะต่อยให้ร่วง แล้วตะโกนใส่หน้าว่ากูนี่แหละผัวคนแรกและคนเดียวในชีวิตของเซลีน แต่มันอาจสร้างปัญหาให้คนที่เขารักได้ การระงับอารมณ์เห็นจะเป็นทางเลือกที่ดี

“มันไม่ใช่หน้าที่หมอธชา หรือว่าหน้าที่ผมต้องตัดสินใจหรอกนะครับ คนที่เลือกคือเซล ถูกไหมครับ”

“...”

“เรามารอดูกันดีกว่านะครับ ว่าใครกันแน่จะต้องเลิกยุ่งกับเซล”

องศาตบบ่าให้กำลังใจ เห็นธชาทำหน้าถมึงทึงเขาก็ยิ่งสาแก่ใจ คนเราจะเกทับคนอื่นได้ก็ต้องรู้ก่อนว่าตัวเองได้เปรียบ ไม่ใช่สักแต่จะพูดแต่ไม่เจียมตัว

“ผมต่อให้หมอธชาเข้าไปเยี่ยมเซลก่อนเลยครับ”

ว่าจบองศาก็เดินกลับไปทางเดิม เพราะถ้าเข้าไปพร้อมกันแล้วปะทะคารมกันอีกเซลีนคงไม่ชอบใจ แต่ไม่นานเขาก็เห็นธชาเดินออกมาตรงล็อบบี้ของแผนก เลยอดที่จะเข้าไปถามไม่ได้

“ทำไมรีบกลับล่ะครับ”

“เซลยังไม่ตื่น แล้วผมก็มีเคสด่วนน่ะครับ”

“น่าเสียดายนะครับที่หมอไม่ค่อยมีเวลา ผิดกับผมที่ตอนนี้มีเวลาให้เซลทั้งชีวิต”

ธชาเดินหนีไปไม่อยากต่อปากต่อคำทั้งไม่มีแม้แต่คำลาตามมารยาท แต่ทิ้งท้ายด้วยแววตาชิงชังในแบบที่องศาเองก็ไม่เข้าใจ ถ้าไม่นับเรื่องเซลีนแล้ว เราไม่มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย

เป็นอีกครั้งที่เซลีนตื่นมาเจอองศานั่งเท้าคางจ้องหน้าเธอแล้วยิ้มหวานอยู่ข้างเตียง เลยมองหาที่กดสัญญาณแต่พบว่ามันอยู่ในมือเขาแต่แรกแล้ว

ไอ้บ้านี่มันยังไงกัน!

บอกไปแล้วว่าเกลียดก็ยังตามมาตอแย คิดหรือว่าเรื่องคืนก่อนจะทำให้เธอยอมจำนนได้ มันก็แค่ one night stand ไม่มีอะไรต้องเสียดาย แต่จะไม่คุยอะไรกับเขาทั้งนั้น หญิงสาวจึงหลับตาลงอีกครั้งจะแกล้งหลับเหมือนคราวก่อน

“ตื่นเหอะน่าที่รัก”

“...”

“นอนนาน ๆ จะเป็นง่อยเอานะ”

“...”

“ไม่ตื่นเหรอ”

เขาชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าที่เริ่มมีชีวิตชีวา เซลีนรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่เป่ารดเปลือกตาหากก็ไม่ยอมลืมตา

“ทำไงดีน้า...”

องศาแสร้งทำเป็นครุ่นคิดแล้วเดินไปที่ประตูแล้วกดล็อก เซลีนยังไม่มีปฏิกิริยาใด แต่ความจริงหัวใจเธอกำลังเต้นตุบ ๆ ไอ้นี่มันจะทำอะไรของมัน

แล้วเซลีนก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อไหล่บางถูกเขากดเอาไว้ ดวงตาสวยเบิกโพลงตามสัญชาตญาณ ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาพรายยิ้มกวนอวัยวะเบื้องล่างอยู่ใกล้หน้าเธอเพียงคืบเดียว

“ต้องปลุกด้วยจูบหรือเปล่าครับ”

องศาขยิบตาโปรยเสน่ห์ แต่เพียงครู่เดียวก็ร้องโอดโอย เพราะเขาไม่ทันระวังจึงถูกมือร้ายกาจของเซลีนบีบกล่องดวงใจเข้าเต็ม ๆ

“โอ๊ย!!!”

มือที่จับไหล่เธอผละออกโดยอัตโนมัติ แต่เซลีนดันไม่ปล่อยเขาง่าย ๆ แถมลุกขึ้นนั่งกับเตียงเพื่อจะได้บีบถนัดอีกต่างหาก องศาจุกจนหน้าเขียว ทุกการโจมตีของเธอเข้าเป้าเสมอสิน่า

“ที่รัก ๆ พะ... พอ... พอแล้ว เจ็บ ๆ”

“บอกแล้วไงว่าอย่าเอาจูบกระจอก ๆ มาบงการฉัน”

เซลีนปล่อยมือเมื่อสาแก่ใจ องศานั่งยอง ๆ กุมเป้าบรรเทาความจุก แต่ไม่นานก็เงยหน้าส่งยิ้มแห้ง

“วิธีนี้ได้ผลแฮะ ถึงจะเจ็บตัวก็เถอะ”

องศานี่มันจนได้สินะ

“มีอะไรก็ว่ามา”

“แค่อยากมาคุยเรื่องคืนนั้น”

“ไม่จำเป็น”

พอเขาพูดขึ้นมา น้ำตาก็ทำท่าจะเกเรเพราะยังเป็นเรื่องอ่อนไหวต่อจิตใจแม้ลึกลงไปเซลีนจะไม่ยอมรับก็ตาม

“ใครว่าล่ะ” องศาเดินขาแข็งไปหยิบเอกสารบนโต๊ะมาให้ “เรื่องนี้เราจำเป็นต้องคุยเลยละ นี่ผลตรวจโรคของเค้า”

องศาทำเหมือนอ่านใจเธอออก มือบางรับผลตรวจมาเปิดดู แล้วก็ถึงกับระบายลมหายใจหนัก ๆ เพราะโล่งใจที่สุดในชีวิต เมื่อพบว่าองศาสะอาดปลอดภัยเช่นเดียวกับช่อ

“เครียดเพราะเรื่องนี้อยู่ไม่ใช่เหรอ ขอโทษนะที่ทำให้เป็นกังวล แต่ว่าหลังจากที่เราตกลงจะอยู่ด้วยกันสามเดือน เค้าก็ไม่ได้ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีก นอกจากคนที่เค้าคิดว่าเป็นที่รัก”

ชายหนุ่มสะกิดแขนเธอเบา ๆ พลางทำตาละห้อยกึ่งออดอ้อนกึ่งเรียกร้องความสนใจ แต่เมียรักกลับจ้องตาเขม็ง

“ไปไหนก็ไป ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย”

คนโดนไล่ลากเก้าอี้มานั่งเท้าคางจ้องหน้าเธอตาปริบ

“นอกจากไล่แล้ว พูดคำอื่นเป็นบ้างไหม เช่นขอบคุณนะคะบี๋ขา บี๋รู้ใจเค้าที่สุด ผัวจะได้ชื่นใจ อุตส่าห์ไปดูกล้องวงจรปิดที่บ้านจนรู้ว่าที่รักพาใครมาให้นอนกับเค้า แล้วตามไปคุยกับเธอจนได้รู้อีกว่าที่รักกลัวติดโรคจากเค้าเลยนะ”

“นายเข้าไปในบ้านงั้นเหรอ”

“เอ่อ...”

“นายยังมีคีย์การ์ดอีกชุด นอกจากที่นายเอามาคืนฉันเหรอ?” แบบนี้เองสินะคืนนั้นเขาถึงเข้าบ้านเธอได้ ทั้งที่เธอจำได้ว่าล็อกบ้านแล้ว

“เค้าก็...”

คนถูกจับได้หลบสายตาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่รู้สึกว่ามือไม้ตัวเองเกะกะไปหมด แต่ต้องระบายยิ้มแห้ง ๆ อย่างยอมจำนนเพราะสายตาดุเข้ม

“มีชุดนึง”

“นายนี่แม่งชั่วร้ายทุกมุมเลยว่ะ!”

“เค้ายอมรับ แต่แค่เก็บไว้เผื่อที่รักเป็นอะไรเหมือนคืนนั้นเค้าจะได้--”

“จะได้เข้ามาขืนใจฉันอีกใช่ไหม?”

เซลีนแว้ดขึ้นอย่างเหลืออด ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น การควบคุมอารมณ์สำหรับเธอก็ยากขึ้นเพราะเธอไม่รู้จะสะกดกลั้นความเสียใจนั้นไว้ได้นานแค่ไหน

“เค้าขอโทษ”

“เลิกพูดแล้วออกไปได้ละ”

“แล้วจะมาหาใหม่”

“ไม่ต้อง”

“เรื่องแบบนี้มันห้ามกันได้ที่ไหน”

เซลีนกำหมัดแน่นหลับตาข่มอารมณ์ ไม่มีประโยชน์ที่จะต่อปากต่อคำกันแบบนี้ แม้เธออยากฉีกเขาออกเป็นชิ้น ๆ ให้หายโมโห แต่ไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือเลยดึงผ้าห่มมาคลุมแล้วนอนตะแคงหันหลังให้เขาเสีย

องศาจะนั่งเฝ้าเธออยู่ในนี้ทั้งวันก็เรื่องของเขา แต่เขาจะไม่มีความหมายมากไปกว่าเศษฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ

“ว้าย”

เซลีนตกใจเพราะองศาพลิกไหล่เธอให้นอนหงายแล้วตรึงมือเธอเอาไว้พร้อมฉกใบหน้าเข้ามาใกล้

“ปล่อยฉันนะอง”

“ขอโทษที่เค้าคงปล่อยที่รักไปไม่ได้ เพราะที่รักเป็นของเค้า... เค้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับเข้าไปอยู่ที่เดิม ที่ในใจของที่รัก ทำทุกอย่างไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องคืนนั้น และไม่ว่าใครหน้าไหนก็ขวางเค้าไม่ได้ด้วย”

“ฉันจะแจ้งตำรวจจับนายที่ข่มขืนฉัน แล้วยังบุกรุกบ้านฉันอีก”

“เค้าไม่กลัว”

ว่าจบคนใจร้ายก็ฉกใบหน้าลงไปบดเคล้าเรียวปากนุ่ม เซลีนเม้มปากสนิทไม่ยอมให้ลิ้นร้อนเข้ามาในช่องปาก และดูเหมือนเขาจะไม่พอใจนัก หากก็ทำได้แค่นั้นแล้วออกจากห้องไป แล้วน้ำตาที่เธอกลั้นเอาไว้มันก็ไหลออกมาเพราะห้ามไม่ไหว

ความรักที่มีต่อองศายังหลงเหลือเต็มหัวใจ ทว่าเซลีนย้อนถามตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าจะต่อสู้ฟาดฟันมาจนหมดแรงไปเพื่ออะไร เพราะสุดท้ายเธอก็ต้องสูญเสียทั้งตัวและหัวใจให้เขาอยู่ดี

แต่ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องคืนนั้น มันมักจะมีภาพที่เขาเริงรักกับแอ้มซ้อนทับในความทรงจำจนเธออยากขย้อนออกมา

เซลีนเหนื่อยเหลือเกิน องศาไม่รู้สึกเหมือนกันบ้างหรือไร เขายังอยากอยู่กับผู้หญิงเลวร้ายที่ทำลายชีวิตเขาได้อีกเหรอ มันจะไม่มีเลยหรือไรที่เขาหลับตาแล้วจะไม่นึกถึงสิ่งที่เธอทำ เธอเองก็ใช่ว่าจะมีความสุข ทุกครั้งที่หลับตายังเห็นแต่ใบหน้าแสนเศร้าขององศา ยังได้ยินเสียงร้องไห้ราวจะขาดใจของเด็กชายลูกพลับ

เธอหยุดแล้ว...

หยุดพร้อมกับแบกรับความเจ็บปวดทางใจที่ตัวเองก่อไว้ แล้วเขาเล่า เมื่อไหร่เขาจะหยุดเสียที

เส้นทางตรงขององศาก็เพื่อให้ได้หัวใจเซลีนมาครอบครอง แต่บางครั้งก็ต้องเดินทางอ้อมเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเธอสักนิดจะได้ไม่ลงแดงตายไปเสียก่อน หากแต่เมื่อวานเขารุกเธอหนักเกินไปแถมยังปากหมาน่าตบ คงทำให้หญิงสาวกลัว วันนี้องศาจึงปรากฏตัวที่โรงพยาบาลพร้อมช่อดอกไม้ ไม่สนใจสายตาใครต่อใครที่มองมาแล้วซุบซิบนินทา

เพราะต่อให้เขาอับอายและเก็บตัวเมามายอยู่แต่ในบ้าน มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แถมเขายังจะเสียโอกาสทำคะแนนกับเมียรักไปอีก แต่กลายเป็นว่าเขามาเก้อ เพราะเซลีนออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว

“ได้ยังไงครับ ใครอนุญาตให้เธอออก”

องศาถามพยาบาลที่เข้ามาเก็บเตียง เพราะหมอเจ้าของไข้เธอบอกว่าพรุ่งนี้ถึงจะอนุญาตให้ออก

“คุณหมอเซลีนเธออนุญาตตัวเองค่ะ”

พยายาลพูดขำ ๆ หมอเจ้าของไข้เป็นรุ่นน้องที่เคารพเซลีนมาก พอเซลีนถามว่าทำไมยังออกไม่ได้ทั้งที่เธอหายดีแล้วเขาก็ตอบไม่ได้จนเสียจริตหมอน่าเกรงขามที่เขาพยายามเป็นมาตลอด ซึ่งมีเหตุผลหลายอย่างที่เซลีนจำเป็นต้องอยู่ ทว่าเพราะความกลัวของรุ่นน้อง บวกกับความดื้อของหญิงสาว เหล่าพยาบาลเลยคิดว่าตอนนี้เธอคงลัลลาอยู่ที่ไหนสักที่

“ขอบคุณครับ”

องศาเดินออกมาพร้อมลางสังหรณ์ในใจแปลก ๆ มันยิ่งทำให้เขาอยากเจอเซลีนมากขึ้นจนรอไม่ไหว รีบบึ่งรถไปหาเธอที่บ้านด้วยความรู้สึกหวิวโหวงในอก

แล้วก็เหมือนโลกสีซีดจางของเขาพังทลายลงมาตรงหน้า เพราะเมียรักไม่อยู่แล้ว มีเพียงคุณศราที่มาคอยคุมพนักงานขนของของเธอไปที่บ้านท่าน

“เซลไปอยู่ที่อื่นแล้ว”

“ที่ไหนครับ”

“เซลไม่ได้บอก”

คุณศราพยายามกลั้นโทสะสุดกำลัง เซลีนไม่ใช่คนหนีปัญหา ทว่าตั้งแต่วันที่องศาพาเจ้าหล่อนไปส่งโรงพยาบาล ลูกสาวที่เหมือนจมปลักกับความเสียใจในทุก ๆ วันก็ยิ่งดำดิ่งสู่ความเจ็บปวดจนท่านเองก็จนปัญญาจะช่วยเหลือ

ที่หายไปวันนี้ก็ทิ้งเพียงข้อความเสียงบอกท่านว่าเธอจ้างบริษัทมาขนของไปบ้านท่านเพราะจะขายบ้านหลังนี้แล้วไปอยู่ที่อื่น โดยไม่บอกท่านเลยว่าที่ไหน เหมือนเซลีนไม่อยากให้ใครบางคนตามเจอ และท่านมั่นใจเหลือเกินว่าองศามีส่วนที่ทำให้บุตรสาวหนีไป

ไอ้บ้านี่มันต้องทำในสิ่งในสิ่งที่เซลีนไม่อาจยอมรับได้ลงไปแน่ ๆ

“คุณพ่อโกหกใช่ไหมครับ”

“ฉันจะโกหกทำไม”

“คุณพ่ออยากกันผมออกจากลูกสาว ก็เลยช่วยกันปกปิด ผมไม่เชื่อหรอกว่าเซลจะหายไปโดยไม่บอกคุณพ่อ”

“แล้วนายทำอะไรมาจนฉันต้องทำแบบนั้นล่ะ”

“...” องศาเม้มปาก ความจริงมันหนักอก เขากลัวท่านจะรับไม่ได้ แต่เพราะแบบนั้นคุณศราถึงแน่ใจ

“ฉันไม่น่าให้เซลแต่งงานกับนายเลย ทั้งที่ฉันรู้ว่ามันเป็นการเมือง แต่ก็ยังเห็นแก่ลูกฉันที่รักนาย และคิดว่าเขาจะเอานายอยู่ แต่ที่ไหนได้... นายกลับทำให้เธอเสียใจในแบบที่เธอตั้งรับแทบไม่ไหว”

“ผมขอโท--”

“ช่างมันเถอะ” ท่านผ่อนลมหายใจออกมาช้า ๆ อารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ “ลูกสาวฉันเองก็ทำกับนายไว้เยอะ ฉันขอโทษแทนเซลีนด้วย แต่ว่านายตัดใจจากเซลซะเถอะ เพราะฉันมองไม่เห็นทางที่นายกับลูกสาวฉันจะกลับมาอยู่ด้วยกันได้จริง ๆ”

“คุณพ่อ...”

“เดินไปตามทางของนายซะอง แล้วปล่อยลูกสาวฉันให้เดินไปตามทางของเขา”

ชายสูงวัยตบบ่าองศาแล้วเดินออกไป ชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ เซลีนไม่อยู่แล้วจริง ๆ ผู้หญิงบ้าอะไรมาทำให้รักแล้วหนีไปหน้าตาเฉยอย่างนี้ แล้วเขาจะตามหาเธอได้จากที่ไหน ดูท่าคงเค้นคำตอบจากคุณศราไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเพื่อน ๆ ของหล่อนก็ไม่แน่ หวังว่าคงไม่ได้รวมหัวกับเซลีนปิดบังเขาหรอกนะ

+ + +

ไม่มีใครรู้ว่าเซลีนอยู่ที่ไหน แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างชลันดาหรือน้องสาวที่เจ้าหล่อนรักอย่างธารี ส่วนธชาก็ไม่ต่างกันกับเขาเท่าไหร่ แต่องศาไม่รู้ว่าตัวเองจะได้เจอเธออีกไหม บางทีเรื่องของเราคงเป็นแค่ความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง และฝันนั้นคงลบเลือนเมื่อเธอกลับมาหากันในสักวัน แต่มันจะเป็นไปได้หรือเปล่า

เขาแค่อยากบอกเธอว่ารัก...

รักอย่างลึกซึ้งสุดหัวใจ

“นี่ก็ห้าเดือนเข้าไปแล้ว มึงยังไม่เลิกจมปลักกับเรื่องเมียเก่าอีกเหรอวะไอ้อง”

อรรณพที่พาเด็กเอ็นเตอร์เทนมาจัดปาร์ตี้ริมสระบนคอนโดขององศาเพราะอยากให้เพื่อนมีความสุขเอ่ยถามทันทีที่เห็นองศาขยับตัวออกห่างพริตตี้สาวสวยแซ่บที่พยายามนั่งเบียด ทั้งที่เป็นผู้หญิงในแบบที่มันชอบแท้ ๆ

“เรื่องของกู”

และคำตอบก็เป็นเหมือนเดิม เล่นเอาอรรณพถึงกับเซ็ง

“มึงแม่ง ทำเหมือนในโลกนี้มีผู้หญิงคนเดียว”

“แต่เซลมีคนเดียว”

องศายกแก้วบรั่นดีรวดเดียวหมด แววตาเขาจริงจังอย่างเดียวกับเสียงพูดจนสาว ๆ ในที่นั้นทำหน้าไม่ถูก

“น้ำเน่าชิบหาย” อรรณพหยัน

“เสือก”

“เอ้า พูดงี้ก็สวยดิไอ้อง”

“เรื่องของกู”

“เฮ้ย ๆๆๆ พวกมึงอย่าเถียงกัน กูยังไม่อยากแดกตีน” กระทิงรีบห้ามทัพ

ตั้งแต่รู้จักกันมา บ่อยเหมือนกันที่สองคนนี้เมาแล้วตีกัน ส่วนมากจะเป็นอรรณพมากกว่าที่หาเรื่องแต่พอตื่นเช้ามามันก็ลืม ซึ่งองศาเองก็ไม่ได้ถือโทษโกรธ

“ไอ้ณพ มึงก็อย่าเยอะกับมันนักเลย” นิกม์ที่วันนี้ควงสามโพล่งขึ้น “คนเรามันรักปักใจ ให้ทำไงได้”

“แต่กูก็อยากให้มันมีความสุขไหมวะ เมื่อก่อนแม่งไม่ใช่แบบนี้”

“คนมันไม่เคยรักใครอะเนาะ”

“ไอ้พวกนี้ จะแดกก็แดกไป ถ้าเสี้ยนนักห้องกูมีหลายห้อง แต่อย่ามายุ่งเรื่องของกู” องศาบอกเสียงห้วน ๆ แล้วก็กระดกอีกทั้งขวด

“กูเข้าใจมึงนะ” กระทิงชงเหล้าแก้วใหม่ให้คนเจ็บหนักหลังจากที่ขวดนั้นหมดลง “เพราะเซลเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สั่งสอนมึงได้เจ็บแสบขนาดนี้ มันก็ฝังใจเป็นเรื่องธรรมดา”

อรรณพจอมกวนหันมองหน้านิกม์แล้วขยับปากแบบไม่มีเสียงว่า ‘องค์พ่อลงแล้วมึง’แล้วพากันกลั้นขำ

หลายเดือนที่ผ่านมาองศาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเพราะบทเรียนล้ำค่าที่ได้จากเมียเก่า มันไม่กล้าเปิดใจให้ผู้หญิงคนไหนเพราะนอกจากจะไม่มีใครแทนที่เซลีนได้แล้ว มันยังกลัวว่าจะไปผิดลูกผิดเมียแล้วทำลายครอบครัวใครเขาอีก ส่วนที่มันถูกสามีแอ้มฟ้องเรียกค่าเสียหายในฐานะชู้ มันก็ยอมทุกอย่างแถมให้เงินมากกว่าที่ฝ่ายนั้นเรียกร้อง

อีกอย่างเรื่องที่เขาถูกฟ้องร่วมกับแอ้มที่ทำให้คนไข้เสียชีวิตในฐานปกปิดความจริงต่อญาติคนไข้ ศาลยกฟ้องเพราะดูที่เจตนาองศาไม่มีความผิด แต่แอ้มถูกเรียกค่าเสียหายจากความประมาทเลินเล่อและอีโก้ของเจ้าหล่อนแบบอื้อทีเดียว

ส่วนตอนนี้ก็ไม่มีอีกแล้วองศาที่ใช้ชีวิตโดยไม่สนว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร เหลือเพียงองศาที่ระวังทุกย่างก้าว ออกจะค่อนไปทางหวาดกลัวด้วยซ้ำ

กระทิงก็อยากจะขอบคุณเซลีนอยู่หรอกนะ ที่เปลี่ยนเพื่อนเขาได้ ถ้าไม่ติดที่ว่าสภาพองศาตอนที่เจ้าหล่อนทิ้งมันไปนั้นไม่ต่างจากผีบ้าแบบนี้ ถึงมันจะมีเงินปันผลจากหุ้นที่พ่อมันทิ้งไว้ให้ไหนจะที่มันขวนขวายเทรดเองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น แต่องศาก็สร้างความหนักใจให้เพื่อนอยู่ดี

“...แต่มึงช่วยทำตัวเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ทีเหอะ อย่าหาว่ากูสอนนะเว้ย เพราะถ้าเซลกลับมา มึงอยากให้เธอเห็นมึงในสภาพที่วัน ๆ ไม่ทำการทำงานเอาแต่ขับรถตะลอนแล้วก็เมาหัวราน้ำ หรือไม่ก็ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้าน ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่ดูแลตัวเองแบบนี้เหรอ ตอนนี้ชีวิตเซลคงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว มึงก็ควรทำบ้างสิวะ”

“ทิง กูแค่อยากเห็นกับตาว่าเซลโอเคจริง ๆ เพราะกูทำเลวกับเซลไว้เยอะเหลือเกิน”

“แบบนี้ก็แปลว่า มันมีอะไรมากกว่าเรื่องที่มึงมีชู้ใช่ไหม”

อรรณพจับไต๋เพื่อนได้ แต่องศาไม่ตอบ หากนั่นก็ทำให้เพื่อนทุกคนเข้าใจตรงกัน

“เรื่องมีชู้แม่งก็เลวร้ายมาก ๆ อยู่แล้วเปล่าไอ้ณพ”

นิกม์พูดขึ้น องศารู้สึกหงุดหงิดใจที่เพื่อนเอาแต่จี้จำไม่เลิก ด้านอรรณพยังพูดต่ออีก

“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร แต่มันเป็นเรื่องที่ทำให้เซลตัดสินใจหนีไปใช่ไหม”

“อือ” เป็นครั้งแรกที่องศาโดนเพื่อน ๆ ต้อนเข้ามุม

“กูว่าละ”

อรรณพตบขาตัวเองดังฉาด เพื่อนเขามันร้าย... ร้ายแบบคาดไม่ถึง ถึงว่าทำไมเซลีนตัดสินใจแบบนี้ทั้งที่เป็นพวกตาต่อตาฟันต่อฟัน

“มึงก็อย่าดาวน์มากเลย” นิกม์บอกแบบนี้มาตลอดหลายเดือนที่เพื่อนเศร้า “เซลมันคงไม่รู้สึกเหมือนมึงแล้วแหละ มันชัดเจนแล้วว่ามันอยากเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ที่มันเซ็นใบหย่าให้มึง ป่านนี้คงมีผัวใหม่ไปแล้วมั้ง อาจจะหนีไปต่างประเทศแล้วก็ได้ แปลว่ามันจะไม่กลับมาหามึงอีกแล้ว ส่วนมึงถ้าอยากทำลายชีวิตกับความฝันตัวเองต่อไปแบบนี้ก็ตามใจมึงนะ ปล่อยพวกกูสนุกกับการเฉาะคนไข้ต่อไปก็ได้ กูขี้เกียจพูด”

องศากำแก้วบรั่นดีแน่น หลายความรู้สึกตีรันฟังแทงกันอยู่ในอก แต่การที่นั่งฟังเพื่อนสวดคืนนี้มันทำให้เขาตัดสินใจบางอย่างได้

“กูจะไปอาสาบนดอย”

เพื่อนทุกคนหันมาจ้องเขาเป็นตาเดียวกัน แต่ชายหนุ่มก็ยังยืนยันความคิดเดิม

“กูพูดจริง”

“มีโรงพยาบาลติดต่อมึงมาตั้งหลายที่ ทำไมต้องเป็นบนดอยวะ มันไม่มีห้องผ่าตัดให้มึงนะเว้ย แล้วมึงก็จะไปจับชาวบ้านมาเฉาะกะโหลกเล่นสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ” กระทิงว่า

“กูไม่ใช่หมอโรคจิตเปล่าวะไอ้นี่”

“ใครจะไปรู้ มึงอาจจะอกหักจนเพี้ยนไปแล้ว ยิ่งไม่มีพวกกูคอยคุมด้วย” ความเวอร์คงต้องยกที่หนึ่งให้กระทิงนั่นแหละ

“มึงไม่ต้องห่วงกูหรอก กูแค่คิดว่าอย่างน้อยถ้าได้ทำอะไรใหม่ ๆ ก็คงทำให้กูลืมเขาได้ง่ายขึ้น”

“คืนนี้มันเมา เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็ลืม” นิกม์ทายอีกโดยมีอรรณพเป็นกองหนุน

ทว่าองศาไม่ใช่พวกเมาแล้วจำอะไรไม่ได้ เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นชายหนุ่มก็เขียนหนังสือตอบรับส่งให้องค์กรที่เกี่ยวข้อง หนึ่งสัปดาห์ให้หลังเขาก็เก็บข้าวของย้ายไปค่ายอาสาอย่างที่เขาตั้งใจ

ในเมื่อเขากับเซลีนไม่ได้เกิดมาคู่กัน ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะยึดติดกับความรักที่มันเป็นไปไม่ได้ แม้จะรู้ดีว่าตัวเขาเองคงไม่อาจรักใครได้อีกแล้ว แต่อย่างไรเสียคนเราก็ยังคงต้องก้าวเดินต่อไป

ช่วงเทศกาลคือช่วงพักผ่อนของใครหลายคน แต่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์แล้ว พูดได้ว่าเป็นวันที่พวกเขาแทบไม่ได้นั่ง เพราะนอกจากเคสปกติแล้ว ยังมีเคสอุบัติเหตุที่เพิ่มจากวันธรรมดาหลายเท่า

“คัดแยกผู้ประสบภัยตามระดับความรุนแรงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าลืมว่ารหัสแดงต้องได้รับความช่วยเหลือเร่งด่วน ถ้าทุกคนเข้าใจตามนี้แล้วเราก็ไปลุยกันเลย”

เซลีนในฐานะหัวหน้าเวรฉุกเฉินวันนี้กำชับทุกคนซึ่งเตรียมพร้อมรองรับผู้ประสบอุบัติเหตุรสบัสประสานงากับรถกระบะที่กำลังจะเข้ามา

ไม่นานรถ ambulance และรถกู้ภัยหลายคันก็วิ่งมาจอดหน้าห้องฉุกเฉินที่ถูกเคลียร์ทางให้เรียบร้อย ผู้เคราะห์ร้ายราวยี่สิบรายร้องโอดโอยผสานกับเสียงร้องไห้ของญาติ ๆ ดังระงม รหัสแดงหลายรายถูกส่งมาให้เธอกับหมอรุ่นน้องอีกสามคน

“หมอเกี้ยวไปดูเคสไฟครอก หมอแวนรับผิดชอบคนไข้หมดสติ หมอสายป่านรับผิดชอบทางโน่น ส่วนเคสนี้พี่จัดการเอง”

เซลีนทำการพยาบาลคนไข้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงที่ขาทันที เธอทำงานนี้มานานแต่พอเห็นภาพตรงหน้ายังเกือบจะรับไม่ได้ เพราะมันร้ายแรงกว่าที่คิดเอาไว้ และที่กลัวยิ่งกว่าคือบุคลากรที่มีอาจไม่เพียงพอ เพราะแพทย์ในแผนกเพิ่งลาออกไปเมื่ออาทิตย์ก่อน แพทย์ที่จะมาแทนก็น่าจะมาถึงวันพรุ่งนี้

คนไข้ต้องได้ตัดขาเพราะกระดูกแหลกละเอียด ส่วนเส้นเอ็นก็เสียหายหนักจนไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ต้องเลือกระหว่างปล่อยไว้อย่างนั้นแล้วรักษาตามอาการแต่จะเจ็บปวดมาก ๆ หรือตัดทิ้งแล้วใส่ขาเทียม ซึ่งเซลีนต้องรอคำยินยอมจากญาติ ๆ ที่กำลังหารือกันอยู่โดยมีฝ่ายกฎหมายเป็นผู้ตัดสิน

เธอทำให้อาการคนไข้คงที่แล้วไปช่วยคนไข้รหัสที่อันตรายรองลงมา กว่าสถานการณ์จะดีขึ้นก็เล่นเอาหลายคนเกือบเป็นลม แต่คืนวุ่นวายของเซลีนดูเหมือนจะไม่จบง่าย ๆ

“พี่เซลีน ช่วยมาทางนี้หน่อยค่ะ”

แพทย์เรสซิเดนท์ในทีมของเซลีนต้องรับมือกับเคสทำแท้งเถื่อนซึ่งคาดว่ามดลูกน่าจะเน่า เพราะคนไข้มีอาการตกเลือดสีดำเหม็นเน่าและปวดท้องรุนแรง

“จากที่หนูสอบถามแฟนคนไข้ พบว่าคนไข้ทานยาคุมฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน แต่ดันหลุดค่ะพี่ คนไข้ก็เลยไปทำแท้งค่ะ”

พอได้ฟังแล้วเซลีนสะอึกเล็กน้อย หน้าอกหน้าใจของเธอก็รู้สึกคัดขึ้นมากกว่าทุกครั้ง ของเหลวในท่อน้ำนมก็พากันไหลซ่าน ให้ตาย! อย่าเพิ่งมาล้นตอนที่กำลังตรวจช่องคลอดคนไข้นะน้ำนม

“หมอผึ้งไปบอกห้องผ่าตัดให้เตรียมเตียงผ่าตัดให้พี่ ส่วนหมอเบนซ์โทร. หาผู้ปกครองคนไข้ให้พี่ที ดูแล้วน่าจะยังอายุไม่ถึงสิบแปด”

น้อง ๆ ในทีมทำตามคำสั่งของอาจารย์แพทย์ทันที ระหว่างรอเซลีนก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการเรื่องที่กำลังกวนใจ แต่ก่อนไปเธอแวะห้องล็อกเกอร์หยิบที่บีบน้ำนมและถุงซิปล็อกออกไปด้วย

“แย่ละสิ”

หญิงสาวบ่นอุบเพราะแผ่นซับน้ำนมเต็มอีกแล้ว ที่พกมาด้วยก็หมด เนื่องจากเธอใช้เวลาในที่ทำงานเยอะกว่าทุกวัน เซลีนโทร. บอกธารีที่ย้ายมาต่อ fellowship ที่นี่ก่อนเธอให้ไปซื้อในร้านสะดวกซื้อมาให้ แล้วจัดการปั๊มน้ำนมใส่ถุงซิปล็อกจนเต็มเอาไปแช่ฟรีซในตู้เย็นในห้องทำงานส่วนตัว แล้วจึงออกไปทำหน้าที่ต่อโดยใช้กระดาษชำระซับแทนไปก่อน

เซลีนมีลูกแล้วชื่อเด็กชายนาที เป็นทั้งชื่อเล่นและชื่อจริง ตอนนี้เพิ่งอายุสามเดือนกับแปดวัน ร่างกายแข็งแรงแถมยังกินจุมากเสียด้วย แน่นอนว่าเด็กคนนี้เป็นลูกขององศา ผู้ชายที่ชาตินี้ไม่ควรเวียนบรรจบมาพบกันอีก

ถึงแม้จะพึ่งยาคุมฉุกเฉิน แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับเธอไม่ต่างจากเด็กสาวที่เธอกำลังผ่าตัดมดลูกให้เท่าไหร่ เพราะตรวจพบภายหลังว่าตัวเองตั้งครรภ์ แถมไม่ใช่การตั้งครรภ์นอกมดลูกอีกต่างหาก

ตอนนั้นเธอมืดแปดด้านไปหมดเพราะไม่คิดว่าหลังจากการแก้แค้นจบลง สิ่งที่เธอได้กลับมาจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของผู้ชายอย่างองศา

แต่เมื่อสัญชาตญาณความเป็นแม่เริ่มทำงาน น้องนาทีก็กลายเป็นยอดดวงใจของเธอได้ไม่ยาก ทำให้เธอรู้แล้วว่าความรู้สึกที่เธอมี จะไม่ขอแบ่งไปให้ใครหรือแบ่งไปเสียใจกับเรื่องอะไรอีกแล้ว แต่จะทุ่มให้ลูกไปทั้งใจ

เซลีนไม่ได้ขัดสนอะไร เงินทองตัวเองก็มีพอสมควร ไหนจะที่ได้จากองศามาอีก การเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสำหรับเธอจึงไม่ได้สาหัสเท่าที่คิดไว้ ถือเป็นโชคดีของเธอไป

ส่วนสถานที่ที่ย้ายมานั้น เป็นจังหวัดแถบภาคเหนือ โรงเรียนผลิตแพทย์เอกชนที่ธารีย้ายมาก่อนหน้านั้นแล้วตกลงอ้าแขนรับเธอเข้าทำงานทันทีที่มาถึง

ที่สำคัญนี่เป็นบ้านเกิดของแม่ซึ่งคนใกล้ชิดคงไม่มีใครคิดว่าเธอจะมา เพราะมันเต็มไปด้วยความทรงจำแสนเศร้า แต่ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด เห็นได้ที่องศาไม่โผล่มาให้เห็นหน้าเลยตลอดหนึ่งปี

ระหว่างตั้งครรภ์เธอไม่ได้ปิดบังเพื่อนร่วมงานก็จริง แต่น้อยคนนักที่จะรู้ เพราะท้องเธอเล็กมาก แถมเซลีนไม่เคยใส่ชุดคลุมท้องเลย จะมีก็แต่เริ่มใส่ชุดหลวม ๆ ตอนเริ่มอึดอัดท้อง แต่พอสวมเสื้อกาวน์ทับอีกรอบเธอก็คือผู้หญิงปกติ เพื่อนร่วมงานหลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอลาคลอด บางคนคิดว่าเธอลาไปเที่ยวต่างประเทศ ส่วนผู้ชายที่มาจีบ พอได้รู้ว่าเธอท้องก็หายไปเลยบ้าง หรือไม่ก็กล่าวหาว่าเธอหลอกลวงเขาบ้าง

เธอเองก็ไม่กล้ามีใครใหม่ เพราะรู้ว่าวันข้างหน้าลูกโตขึ้นมาเขาต้องถามหาพ่อ เขาอาจไม่ยอมรับผู้ชายคนใหม่ของเธอจนกลายเป็นแผลในใจและพาลเกลียดเธอไปด้วยเหมือนที่เด็กชายพลับพลาเกลียดแม่ตัวเอง

เซลีนกลัวเวรกรรม...

เพราะเท่านี้เธอก็แบกรับมันเอาไว้จนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

ส่วนคุณศรานั้น แรกทีเดียวเธอไม่ได้คิดจะปกปิดนาน ที่ไม่บอกที่อยู่ในตอนแรก ก็เพราะรู้ดีท่านจะรีบมาหาทันที อาจทำให้องศารู้ที่อยู่เธอด้วย เขาตื๊อเธอหนักแค่ไหนเธอรู้อยู่เต็มอก แต่พอเริ่มรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์เธอก็ต้องปิดเป็นความลับเพราะกลัวท่านเสียใจ

กระทั่งเข้าเดือนที่ห้า ท่านตัดสินใจบุกมาหาถึงที่เพราะท่านรู้จักนิสัยเธอดีที่สุดจึงคิดว่าที่เซลีนจะมาก็คือที่นี่ แล้วก็ไม่ผิดจากที่ท่านคิด ทำให้ความลับที่เก็บงำถึงได้ปิดไม่มิดอีกต่อไป

คุณศราเข้าใจว่าเธอท้องเลยตัดสินใจหนีมา หญิงสาวก็ไม่ได้บอกสาเหตุที่แท้จริงเพราะมันน่าอายยิ่งกกว่า ท่านเสียใจและโทษตัวเองอยู่พักใหญ่ที่ไม่ห้ามเธอถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกคือตอนแต่งงาน ครั้งที่สองคือตอนที่เธอจะเอาคืนผู้ชายอย่างองศา

แต่กระนั้นท่านก็ยินดีที่จะมีหลานตัวน้อย หลังเธอคลอดคุณศราจึงมาหาเธอบ่อยขึ้นเพราะท่านหลงน้องนาทียิ่งกว่าอะไร ส่วนองศาเธอก็ได้ข่าวมาว่าเขาไปเป็นแพทย์อาสาบนดอย ไม่มีกำหนดกลับลงมาพื้นราบ ก็ดีใจที่เขาค้นพบหนทางของตัวเองแล้วเลิกยึดติดกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างเธอ

หลังผ่าตัดเสร็จเซลีนเข้าไปเปลี่ยนแผ่นซับน้ำนมแล้วมานั่งพัก ไม่ลืมเปิดดูภาพเรียลไทม์ของกล้องวงจรปิดในบ้าน ซึ่งเผยให้เห็นเด็กชายนาทีหลับสนิทในเปล ส่วนพี่เลี้ยงสองคนที่เธอจ้างมาก็นอนเฝ้าอยู่ไม่ห่าง เท่านี้เธอก็วางใจแถมมีกำลังใจทำงานต่อแล้วแหละ

“พี่เซล มีคนโทร. แจ้งว่ามีเด็กทำประทัดระเบิดใส่ตัวเองที่งานลอยกระทงค่ะ เราต้องไปกับ ambulance ด่วน”

เพราะแพทย์เวรพาร์ทไทม์มีไม่พอ แม้จะเรียกคนที่ลงเวรไปแล้วให้กลับมาช่วยกันก็แล้ว เซลีนจึงได้กระโดดขึ้นรถฉุกเฉินไปยังพื้นที่จัดงานลอยกระทงเพื่อกู้ชีพคนไข้

ถึงตอนนี้เธอนึกอยากหยิกแขนผู้ปกครอบเด็กเสียเต็มประดาที่ไม่ดูแลสอดส่องบุตรหลานในช่วงนี้

ระหว่างเดินเบียดเสียดผู้คนอยู่ในโซน street food ของงานลอยกระทง องศาเหลือบมองอรรณพอย่างเคือง ๆ พลางนึกในใจทำไมคนที่มาเที่ยวพอดีเลยต้องมารับเขาจากสนามบินต้องเป็นมันด้วย ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขาคงได้สลัดเสื้อผ้า อาบน้ำอาบท่า และจัดการกับผมเผ้าหนวดเคราที่ทำให้อรรณพมันหาว่าเขาเป็น ‘ทาร์ซาน’ ไปแล้ว

“ไอ้อง มึงเห็นเปล่า น้องคนนั้นแต่งตัวโคตรเด็ดเลยว่ะ”

“เออ” เขาเออออเพราะรำคาญเต็มทน สาวสวยคนนั้นแต่งตัวเก่งก็จริง แต่ไม่เห็นจะสู้เมียรักเขาได้เลย

“แหม เสียงแบบนี้แสดงว่าไม่เด็ดเท่าเมียเก่าช้ะ?”

“รู้มากนะมึง”

“ก็นี่ใคร หมอณพนะครับ”

อรรณพยืดอกภาคภูมิใจ ไม่ได้เจอเพื่อนหลายเดือน หลายอย่างเปลี่ยนไปแต่ที่ยังเหมือนเดิมคือหัวใจมันนั่นแหละ

“มึงเดินคนเดียวไปนะ กูจะไปทางโน้นก่อน ยังไงเจอกันที่รถ”

เขาปลีกตัวไปริมแม่น้ำซึ่งมีคนน้อยกว่า มีการแสดงพลุสวยงามตระการตาและพ่อค้าแม้ค้าขายกระทงที่ทำจากวัสดุย่อยสลายได้ แสงเทียนจากกระทงน้อยใหญ่ที่ลอยล่องกลางลำน้ำให้ความรู้สึกเหมือนดวงดาวสุกสกาว ลมหนาวที่พัดมากระทบผิวกายทำให้เสียดายที่ถอดเสื้อกันหนาวไว้ที่รถ จะกลับไปเอาก็ขี้เกียจเพราะคนแน่นเหลือเกิน

“กระทงไหมครับพี่ มีทั้งแบบที่ทำจากขนมปัง จากใบตอง แล้วก็จากน้ำแข็งครับ” เด็กชายคนหนึ่งเข็นรถเข็นเล็ก ซึ่งมีถาดวางกระทงและกล่องโฟมบรรจุกระทงน้ำแข็งมาเสนอขายให้ แต่ละแบบงดงามราวกับหลุดออกมาจากในหนังสือชาววัง

“ทำเองเหรอครับ”

“เปล่าครับ เจ้านายแม่ผมที่เป็นหมอเขาทำแล้วให้ผมเอามาขายครับ แล้วเราจะแบ่งกำไรกัน เขาบอกว่าผมจะได้มีเงินเอาไว้เป็นทุนเรียนหนังสือครับ”

“เหรอครับ”

องศารู้สึกว่าเจ้านายของแม่เด็กคนนี้จิตใจดีจริง ๆ เพราะจากหน้าที่การงานขนาดนี้ บางคนอาจไม่สนใจกำไรเล็ก ๆ น้อย แต่เจ้าหล่อนทำไปเพียงเพื่อให้เด็กมีงานทำ แทนที่จะเป็นการให้เงินเด็กแบบง่าย ๆ เหมือนผู้ใหญ่เคยตัวบางคน แถมฝีมือทำกระทงยังยอดเยี่ยม ดูใบตองนั่นสิ จับกลีบได้สวยงามพอดิบพอดี ทั้งยังเป็นหมอด้วย เขาเดาเลยว่าต้องเป็นหมอมือเบามากแน่ ๆ

“กระทงใบตองนี้กลัดด้วยไม้กลัดทั้งหมดเลยครับ คุณหมอบอกว่ามันย่อยง่ายกว่าพินครับ กระทงนี้ราคาหกสิบบาทครับ” เพราะเห็นลูกค้ามองกระทงใบตองอย่างสนใจจึงบอกราคาให้

“อาเอาอันนี้ดีกว่าครับ” องศาตัดใจจากกระทงใบตองแล้วหยิบกระทงน้ำแข็ง

“ห้าสิบบาทครับ” องศายื่นเงินให้ เด็กชายไหว้รับแล้วก็เดินไปขายให้คนอื่นต่อ

+ + +

องศาอดที่จะก้มมองกระทงในมืออย่างชื่นชมไม่ได้ กลีบดอกไม้ที่ใช้ตกแต่งไม่ถูกความเย็นทำลายจนหมดสวย ถือว่ากะเวลาใส่ได้เหมาะสม และมันทำให้เขานึกถึงกระทงที่เซลีนเลือกซื้อตอนที่เขาจีบเธอแรก ๆ

‘ทำไมเซลเลือกกระทงน้ำแข็งล่ะ กระทงใบตองสวยกว่าตั้งเยอะ แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกนะ’

‘เพราะกระทงใบตองใช้เวลาสิบสี่วัน กว่าจะย่อยสลายค่ะ นี่ยังไม่รวมเหล็กเอย ไส้แม็กซ์เอยที่ใช้กลัดใบตองนะ ย่อยช้าก็ส่วนนึง แต่ถ้าสัตว์น้ำเผลอกลืนเข้าไป มันไม่ดีแน่ ๆ แต่กระทงน้ำแข็งเนี่ย ใช้เวลาย่อยสลายแค่ชั่วโมงเดียว ส่วนดอกไม้พวกนี้ เซลคิดว่าไม่น่าจะใช้เวลานานเกินสิบสี่วัน’

‘โห ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเซลเป็นคนที่คิดเผื่อทุกอย่างขนาดนี้ เป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งมากเลย’

เขาเอ่ยชมเจ้าหล่อน แต่น่าเสียดายที่ความรู้สึกชื่นชมนั้นเป็นเพียงการเสแสร้ง

‘ไปลอยตรงโน้นกันค่ะ คนไม่เยอะแล้ว’

‘ครับ ไปกัน’

องศาจุดธูปและเทียนให้เธอ ด้านเซลีนฝากเขาถือกระทงน้ำแข็งเย็นเยียบแล้วเขย่งเท้าให้สูงพอจะทำอะไรกับศีรษะเขาได้

‘จะทำอะไร’ เขาเบี่ยงศีรษะออกแล้วถามอย่างไม่เข้าใจ

‘ขอโทษที ต้องขออนุญาตก่อน’ หญิงสาวตกใจแล้วยิ้มแหย ๆ ‘คนสมัยก่อนเขาเชื่อกันว่า ถ้าเราใส่เส้นผมหรือเศษเล็บเราไปลงกระทงด้วย จะเป็นการลอยทุกข์ลอยโศกไปกับกระทงน่ะ’

‘อ๋อ เคยได้ยินมาเหมือนกัน โทษที นี่ไม่ค่อยได้สนใจเทศกาลพวกนี้เท่าไหร่เลยไม่ค่อยรู้เรื่องน่ะครับ’

ท่าทีเขาอ่อนลง ก่อนก้มศีรษะให้หญิงสาวดึงเส้นผมใส่ในกระทง และเซลีนก็ทำแบบนั้นกับศีรษะตัวเองเช่นกัน

‘ไม่เป็นไรหรอก แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยค่ะว่าหลังจากนี้ถ้าเรายังเป็นแฟนกันอยู่ ไม่ว่าจะปีหน้าหรือปีถัดไป เซลจะพาองมาลอยกระทงด้วยกันทุกปีเลย’

‘ต่อให้คืนลอยกระทงจะเป็นคืนที่พวกเรายุ่งที่สุดแบบนี้เหรอ’

แน่นอนเขาไม่พอใจเท่าไหร่ที่หญิงสาวเหนี่ยวตัวเขาให้มาทำเรื่องไร้สาระอย่างนี้ทั้งที่เขาควรได้พักจากการทำงานเสียหน่อยแม้จะเป็นช่วงเวลาแค่สิบห้านาทีก็ตาม แต่เพราะความจำเป็นองศาจึงไม่มีทางเลือก

‘เราก็ปลีกตัวมาลอยที่แม่น้ำหลังโรงพยาบาลแบบนี้ยังไงล่ะคะ’

‘ก็ได้ครับ เป็นความคิดที่ดี’ องศาว่ายิ้ม ๆ ส่งกระทงคืนให้เธอแล้วช่วยจับมือหญิงสาวให้ลงไปที่ท่าน้ำ

ทั้งคู่ค่อย ๆ นั่งลงแล้วต่างก็ตั้งจิตอธิษฐาน แต่เจ้าของใบหน้านวลใสนั้นดูเหมือนมีเรื่องที่ปรารถนาเยอะเหลือเกินเพราะใช้เวลานานกว่าเขามากทีเดียว

‘ขออะไรเหรอครับ’

องศาอดถามไม่ได้ อยากรู้ว่ามันจะเลิศหรูสักปานใดถึงได้ผลาญเวลาเขาขนาดนี้

‘ถ้าบอกแล้วมันจะเรียกว่าอธิษฐานเหรอคะ’

‘เราก็รู้กันแค่สองคนไงครับ ยังไงก็ยังศักดิ์สิทธิ์นะ’

‘ไหนบอกไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ไงคะ ย้อนแย้งนะเนี่ย’

‘เอ้า ผมนึกว่านี่มันเป็นหลักสากลอยู่แล้ว’

หญิงสาวยิ้มหวาน

‘จะว่างั้นก็ได้ค่ะ’

‘ตกลงจะบอกกันได้ไหมนะว่าขออะไร’

‘เซลขอให้องศายิ้มค่ะ’

‘…’

‘ขอให้ตัวเองได้เห็นรอยยิ้มขององศาทุกวันด้วย เพราะสำหรับเซลแล้ว... แค่เห็นรอยยิ้มของคนที่ตัวเองรัก มันก็เหมือนกับว่าในโลกนี้จะไม่มีอะไรมาทำร้ายเซลได้ เพราะฉะนั้นองต้องยิ้มบ่อย ๆ ต้องมีความสุขให้มากในทุก ๆ วันนะคะ’

‘โห...’

เขาค่อนข้างทึ่งกับสิ่งที่เธอพูด เซลีนดูเป็นธรรมชาติมากเมื่อพูดถึงเขา ทั้งที่ปกติเจ้าหล่อนจะดูเหมือนพยายามเป็นใครอีกคนเพื่อเขาจนน่าอึดอัด

แต่องศาก็ไม่ได้เข้าใจมันเท่าไหร่ เพราะถ้าเป็นเขาก็ต้องขอเพื่อตัวเองก่อน ให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขอให้ช้อนหุ้นได้ถูกจังหวะ หรือขอให้ได้เลื่อนตำแหน่งในเร็ววัน ที่สำคัญเขาขอให้เขากับเธอไปกันไม่รอด

องศาในตอนนี้ย้อนกลับไปมองตัวเองในอดีต ถึงได้รู้ว่าเขาช่างโง่เขลายิ่งกว่าไก่ได้พลอยที่ไม่เคยเห็นค่าคนที่รักเขาสุดหัวใจ ก็สมควรแล้วที่สุดท้ายจะไม่เหลือใคร

แต่วันนี้เขาจะไม่เศร้า...

เพราะความปรารถนาของเธอคือรอยยิ้มของเขานี่นา แม้เซลีนจะไม่ได้ต้องการมันแล้ว แต่องศาก็ยังหลับตาอธิษฐาน เพราะถ้าหากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ก็อาจช่วยให้หัวใจของเมียรักที่ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ตามแข็งแกร่งมากพอจะต่อสู้กับคืนวันโหดร้าย

และถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง... เขาก็ขอให้เขาได้พบเธออีกสักครั้ง

“ขอโทษนะคะคุณ รบกวนขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหมคะ”

เสียงอ่อนหวานที่เขาไม่เคยลืมเลือนที่ดังขึ้นใกล้ ๆ นั้นทำให้หัวใจขององศาไหววูบ เขาค่อย ๆ หันไปตามเสียงนั้นแล้วน้ำตาลูกผู้ชายก็เอ่อล้นรินไหลจากขอบตา

นี่เป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง หรือว่าโชคชะตากำลังเหวี่ยงเขาและเธอให้กลับมาเจอกันอีกกันแน่นะ

“เซล...”

เซลีนตัวแข็งทื่อมือไม้อ่อนยวบเหมือนเจอผีร้าย กระทงน้ำแข็งที่ได้จากเด็กชายเกมเพลย์ลูกชายของพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งเธอบังเอิญเจอเมื่อครู่ก็ถึงกับร่วงลงพื้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ เต้านมที่คัดอยู่เป็นปกติอยู่แล้วก็รู้สึกเจ็บรัดขึ้นมาอีก ไม่พอเท่านั้นน้ำนมเจ้ากรรมยังพลุ่งพล่านยิ่งกว่าตอนผ่าตัดมดลูกให้เด็กสาว

ผู้ชายผมยาวหนวดเครายาวเฟื้อยเหมือนเพิ่งมาจากตะวันออกกลางคนนี้ เป็นเขาจริง ๆ งั้นหรือ?

ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?

“เอ่อ ตรงนั้น...”

องศาที่คิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในความฝันและเป็นฝันดีเสียจนเขาต้องหลั่งน้ำตา กลับสะดุดตากับยูนิฟอร์มสีเขียวเข้มที่หล่อนใส่แต่ตรงหน้าอกมีของเหลวซึมออกมาเป็นดวงทั้งสองข้าง

เซลีนกะพริบตาปริบ ๆ กว่าจะตื่นจากความตะลึงตะลาน น้ำนมก็ไหลจนเสื้อเปียกเป็นทางยาว หญิงสาวตัดสินใจวิ่งฝ่าผู้คนกลับไปทางเดิมเสียโดยไว ไม่ทันจะได้ทักทายกันสักคำ

“ดะ... เดี๋ยวก่อนสิ”

องศาเรียกตาม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เขายังแยกไม่ออกว่านี่ความจริงหรือเพราะเขาเมาควันธูปแล้วตาฝาดไป หรือเป็นแค่หน้าเหมือน หรือว่าคนเมื่อกี้คือเซลีนจริง ๆ

แต่สิ่งที่ทำให้เขาแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปเห็นจะเป็นเศษกระทงน้ำแข็งที่แตกกระจายอยู่หน้าเขา แถมอาการตัวเองก็ไม่เฉียดใกล้ความเมาควันเลยสักนิด ไหนจะการที่เธอหนีหน้าเขาอีก

เป็นเมียรักของเขาแน่แล้ว...

“ในที่สุดก็หาเจอซะทีนะ เซล”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขาที่น้ำตาแห่งความปรีดีกำลังรินไหล นี่เป็นความสุขสุดใจในรอบหนึ่งปีที่เกิดขึ้นกับผู้ชายเลว ๆ อย่างเขา

ใกล้กันอีกนิดแล้วสินะ

ต่อไปนี้ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนเขาจะหาเธอให้เจอ ไม่รู้หรอกว่าเธอจะยังเกลียดเขาอยู่ไหม หรือว่าเธอจะมีรักใหม่ไปแล้ว แต่ขอแค่เขาได้เจอเธออีกครั้งและเฝ้ามองอยู่ไม่ไกลเท่านั้นมันก็ดีพอแล้ว

ฝ่ายเซลีนวิ่งหนีมาไกลจนคิดว่าเขาไม่น่าจะตามมาทันแล้วก็พักเหนื่อย

“อะไรกันวะเนี่ย”

ทำไมองศามาอยู่ที่นี่ได้ เธอไม่ได้เหนื่อยจนตาฝาดแน่ ๆ แล้วมั่นใจด้วยว่าไม่ใช่คนหน้าคล้าย แม้จะจำเขาจากทางด้านหลังไม่ได้เนื่องจากทรงผมที่เปลี่ยนไป แต่แววตาและน้ำเสียงนั่นเธอจำได้ดีเลยทีเดียว ตอนนั้นเองที่เสียงเรียกเข้าดังขึ้น มือสั่น ๆ รีบควักเอามือถือในกระเป๋าเสื้อแล้วกดรับสาย

“ว่าไงนุ้ง”

‘คนไข้ถึงโรง’บาลแล้ว ตอนนี้หมอไอซ์กำลังประเมินอาการอยู่’

“โอเค”

เซลีนทำการกู้ชีพคนไข้เสร็จพอดีก็มีทีม EMT อีกทีมมารับช่วงต่อ ส่วนรถ ambulance ที่เธอมาด้วยก็ต้องไปรับคนไข้จากอีกที่ซึ่งมีอีกทีมรออยู่ เธอกับน้องอีกคนก็ต้องติดรถอีกคันกลับโรงพยาบาล เลยถือโอกาสที่รอนี้ไปลอยกระทงเหมือนคนปกติเขาบ้าง แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่ไม่อยากเจอแบบนี้

‘ทำไมเสียงเป็นแบบนั้นอะ’ คนปลายสายจับสังเกตได้

“เมื่อกี้พี่คิดว่าพี่เจอองศาน่ะ”

‘เฮ้ย จริงดิพี่’

“พี่มั่นใจ พี่ไม่ได้ตาฝาด”

‘มันมาได้ไง พี่ได้คุยกับมันเปล่า เรื่องน้องนาทีล่ะ มันรู้แล้วเหรอ แล้วทีนี้เราจะทำไงอะพี่ โอ๊ย นุ้งคิดไม่ตกเลย แต่สาบานนะว่าเรื่องของพี่ไม่ได้หลุดจากนุ้งนะ’

“นุ้งใจเย็นก่อน เดี๋ยวถึงโรง’บาลแล้วค่อยอธิบายให้ฟัง”

เซลีนปรามน้องสาวที่ดูเหมือนจะร้อนใจยิ่งกว่าเธอเสียอีก พอวางสายจากธารีแล้ว น้องอีกคนที่กำลังตามหาเธออยู่ก็เข้ามาเรียกให้ไปที่รถซึ่งมาจอดรออยู่ประมาณห้านาทีแล้ว

รถฉุกเฉินขับผ่านฝูงชนตรงหน้างานไป บังเอิญว่าองศาก็เดินออกไปตรงนั้นพอดี ผู้หญิงที่นั่งข้างคนขับนั่นเขาค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่คนหน้าเหมือนเซลีน

“โรงพยาบาล...งั้นเหรอ”

โรงพยาบาลนี้เองสินะ ที่ที่เธอทำงานอยู่ องศายิ้มดีใจ มองตามรถคันนั้นตาละห้อยไปจนลับสายตาแล้วก็เดินไปยังลานจอดรถซึ่งอยู่อีกฝั่งของถนน เห็นอรรณพนั่งกินสายไหมเหมือนเด็ก ๆ อยู่หน้ากระโปรงรถ

“กว่าจะเสด็จมาได้นะมึง”

“โทษที”

องศาไม่อาจหุบยิ้มได้เลยตั้งแต่เมื่อกี้ จนเพื่อนยังต้องแปลกใจ

“ยิ้มเหี้ยไรวะ”

“พอดีกูเจอผู้หญิงที่กูถูกใจน่ะ”

“ใครวะ”

อรรณพดูตื่นเต้นมากเพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่องศาจะเปิดใจให้ใครหลังจากหย่ากับเมียเก่า

“เซลีน”

“เฮ้ย ไอ้อง! มึงล้อกูเล่นเปล่าวะ”

“เรื่องแบบนี้กูเคยล้อเล่นเหรอ”

“งั้นมึงก็คงฝัน”

“ไอ้ณพ ใครจะมาฝันเอาตอนที่เดินงานลอยกระทง มึงนี่ก็ ยิ่งโตยิ่งโง่นะ”

“อ้าว ไอ้นี่”

“มึงเปิดรถได้แล้ว กูอยากถึงที่พักแล้วอาบน้ำอาบท่า พรุ่งนี้จะได้เริ่มทำงานอย่างมีความสุข”

“เออ ๆ”

อรรณพปลดล็อกรถให้ แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นถุงหิ้วที่บรรจุของเหลวกับเศษดอกไม้ที่ปนมากับเศษดิน

“ไอ้อง มึงจะเอาขยะแบบนั้นขึ้นรถกูไม่ได้นะ”

“พูดดี ๆ หน่อย นี่ไม่ใช่ขยะ”

“ไม่ใช่แล้วมันอะไรวะ”

“เออน่ะ เดี๋ยวกูจ่ายค่าล้างรถให้”

องศาตัดบทเสียเท่านั้นแล้วก้าวขึ้นรถไป คืนนี้คงเป็นคืนที่เขาฝันดีที่สุดในรอบหนึ่งปี ใครจะคิดล่ะว่าจู่ ๆ คำขอของเขาก็เป็นจริงขึ้นมา ในที่สุดก็จะได้เจอกันเสียที

เมื่อคนไข้ไร้สัญชาติที่เคยรักษาหายตัวไปทีละคน องศาจำต้องร่วมมือกับตำรวจที่ได้เบาะแสน่าสนใจเกี่ยวกับโรงพยาบาลนี้ แล้วกลับมาทำงานในสังคมเมืองอีกครั้ง แต่เมื่อคืนกว่าจะถึงที่พักก็ดึก ไหนจะต้องอ่านรายงานเคสสำคัญที่ต้องผ่าตัดทันที เขาเลยทันได้แค่โกนหนวด ส่วนผมที่ยาวจนต้องรวบเอาไว้คงต้องไปหาร้านใกล้ ๆ ถ้าวันนี้เขาพอมีเวลาว่าง แต่กลับเป็นที่กรี๊ดกร๊าดของสาว ๆ ในที่ทำงานใหม่อย่างไม่ได้ตั้งใจ

“นี่หมอองศา เพิ่งมาจากกรุงเทพ จะมาแทนหมอสิรินทร์ชั่วคราว จนกว่าเราจะได้อาจารย์แพทย์คนใหม่มาแทน”

หมอเบญหัวหน้าแผนกศัลยกรรมแนะนำเขาต่อหน้าคนในแผนก องศายื่นมือไปทักทายทุกคน แต่มีคนหนึ่งที่ต้องทักทายเป็นกรณีพิเศษ

“สวัสดีครับ หมอธารี”

“สะ... สวัสดีค่ะ หมออง”

“ดีใจที่ยังจำกันได้นะครับ”

มุมปากของธารีกดยิ้มนิดหน่อย

“ใครจะจำหมอองไม่ได้ล่ะคะ วีรกรรมเยอะเสียขนาดนั้น”

“พี่รู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ นะครับ”

“เช่นกันค่ะ”

ธารีตอบสั้น ๆ หากในใจกำลังร้อนรน ที่เมื่อคืนพี่สาวบอกว่าเจอองศาแต่คิดว่าโลกคงไม่กลมถึงขนาดต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งมันไม่ใช่เลย เพราะใครจะรู้ว่าเขามาแทนหมอสิรินทร์ที่ลาออกไป

แต่ทำไมบอกว่ามาจากกรุงเทพล่ะ ทั้งที่เขาเพิ่งลงดอยมานี่นา

การแนะนำตัวกินเวลาไม่นาน แต่ละคนก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ตัวเอง องศามาอยู่ที่นี่ในฐานะอาจารย์แพทย์ ดังนั้นจึงต้องรับผิดชอบเรสซิเดนท์สามคนแทนคนเก่าด้วย

“ทำตัวตามสบายนะครับ ผมไม่ได้โหด”

องศาพูดติดตลก แต่รู้ดีว่าสาเหตุของสายตาแปลก ๆ ที่มองเขาคืออะไร

“และใช่ครับ ผมคือหมอคนเดียวกับที่พวกคุณเห็นในคลิปนั้น มันไม่น่าภูมิใจอะไรเลยครับ แต่หวังว่าทุกคนจะมองกันที่ความสามารถไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ถึงมันจะแยกออกจากกันไม่ค่อยจะได้ก็ตาม”

จริงอยู่ที่พอเวลาผ่านไปคนก็จะลืม แต่มันยังคงเป็นอดีตที่ตามหลอกหลอน ไม่ว่าเขาไปที่ไหนก็จะมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่จำเขาได้ ขึ้นอยู่กับว่าจิตใจแข็งแกร่งพอที่จะเชิดหน้าไม่สนใจได้หรือเปล่า อีกอย่างมันก็เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจไม่ให้เขากลับไปทำเรื่องแย่ ๆ แบบนั้นอีก

“ยินดีที่ได้ร่วมงานด้วยนะคะ หมอองศา” / “ยินดีที่ได้ร่วมงานครับพี่” / “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

“ผมก็เหมือนกันครับ ว่าแต่เราต้องเข้าผ่าตัดพร้อมอีกทีมนึงใช่ไหมครับ แล้วพวกเขาไปไหนซะล่ะ”

เรสซิเดนท์ในทีมมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ได้ข่าวมาว่าทีมของอาจารย์แพทย์จอมโหดเจอศึกหนักคืนลอยกระทง จนไม่มีใครได้กลับบ้านกลับช่อง พวกเขาเองที่มาช่วยตอนเช้ามืดก็เพิ่งได้พักเหมือนกัน ป่านนี้คงสลบเหมือดอยู่ห้องไหนสักห้อง

กลายเป็นว่าทีมนั้นยังคร่ำเครียดอยู่กับการผ่าตัดเปิดสมองของเด็กชายที่ได้รับอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่อเช้ามืด แต่เป็นอีกครั้งที่ผู้นำทีมต้องยอมแพ้ให้แก่พญามัจจุราช

“แกนสมองเขาไม่ตอบสนองแล้ว หมอสายป่านเตรียมคำพูดไปคุยกับญาติ ๆ ได้เลย ส่วนหมอแวนกับหมอเกี้ยวตามพี่ไปห้องผ่าตัดสาม”

เซลีนกระจายงานตามความเหมาะสมแล้วเดินออกจากห้องผ่าตัดไป ระหว่างทางเดินไปห้องผ่าตัดสาม ธารีที่ดักรออยู่นานแล้วแต่เผลอหันไปคุยกับเพื่อนครู่เดียว พี่สาวก็เดินผ่านเธอแล้วผลุบเข้าห้องนั้นไปเสียแล้ว

โธ่... เซลีนไม่รู้เลยสินะว่าอะไรรออยู่ในห้องนั้น ก็ได้แต่หวังว่าเธอจะไม่เป็นไร

อาจารย์แพทย์คนใหม่รออยู่ในห้องผ่าตัดสามมาร่วมสิบนาที จนกระทั่งบุรุษพยาบาลเข็นคนไข้เข้ามาอาจารย์สาวคนดังในโรงพยาบาลนี้ก็ยังไม่ปรากฏตัว ทว่าองศายังรอต่อไปอย่างใจเย็น

“ขอโทษด้วยค่ะ ดิฉันเพิ่งเสร็จจากห้องผ่าตัดหนึ่ง”

เพื่อนร่วมงานคนใหม่ที่อยู่ในชุดเตรียมพร้อมแล้วเพียงแค่พยักหน้าให้ เซลีนไม่ได้สนใจอะไรนอกจากคนไข้บนเตียงที่กำลังจะเสียขาตัวเองไป ญาติคนไข้เศร้ามากแต่ไม่อาจปฏิเสธความจริงได้ว่า ในบางครั้งคนเราก็จำเป็นต้องเสียสละบางสิ่งบางอย่างเพื่อมีชีวิตต่อไป

หญิงสาวประจำที่แล้วรับเครื่องไม้เครื่องมือจากเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ก่อนเป็นฝ่ายจรดใบมีดลงบนเนื้อคนไข้ด้วยตัวเอง อาจารย์แพทย์คนใหม่เหลือบมองเจ้าหล่อนเป็นระยะด้วยแววตาชื่นชม

ไม่ว่านานแค่ไหนเธอก็ยังตั้งใจและทุ่มเทกับงานที่เธอรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง และทุกครั้งที่หญิงสาวจับมีดผ่าตัดอยู่ใต้แสงโคมไฟ 160,000 lux ก็ราวกับว่าเธอหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง

องศาอยากเฝ้ามองภาพงดงามที่อบอุ่นราวแสงตะวันและให้ความรู้สึกคล้ายกับว่าเขาล่องลอยอยู่ในสรวงสวรรค์นี้ให้นานแสนนาน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้

“แคลมป์” สิ้นเสียงของเขา แพทย์อีกคนก็ช่วยใช้คีมหนีบเส้นเลือดใหญ่ ทว่าเสียงนั่นเหมือนสิ่งที่ทำให้โลกทั้งใบของเซลีนหยุดหมุน

องศางั้นหรือ...

ไม่จริงน่า เขาจะมาเป็นเพื่อนร่วมงานคนใหม่ของเธอได้อย่างไร ไหนมีคนบอกว่าเขาไม่มีกำหนดลงดอยอย่างไรเล่า ทว่าดวงตาที่โผล่พ้นแมสก์แล้วมองเธอราวจะกล่าวทักทายทำให้เธอมั่นใจแล้วว่าใช่เขาจริง ๆ

“กรรไกรครับ” แม้จะตกใจที่เป็นเขาแถมน้ำนมยังพลุ่งพล่านจนน่ากลัวว่าจะล้นแผ่นซับน้ำนม แต่หญิงสาวส่งกรรไกรให้เขาได้ทันทีเพราะเคยชินไปแล้ว แถมยังครองสติและตัดเรื่องส่วนตัวออกจากหัวเพื่อผ่าตัดต่อไปให้แล้วเสร็จและเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไข้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป